xs
xsm
sm
md
lg

"ธนชาต"ขอ2ปีดันเอยูเอ็ม2แสนล. ผนึกสาขา"นครหลวงไทย"ปั้มยอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ. ธนชาตตั้งเป้าอีก 2 ปี ดันเอยูเอ็มโตเป็น 2 แสนล. จ่อคิวลุยธุรกิจเต็มสูบ หลังควบรวมแบงก์นครหลวงไทย หนุนช่องทางขายหลากหลายมากขึ้น พร้อมประเมินตลาดหุ้นไทย ยังน่าสนใจ มองเป้าดัชนี 1,200 จุด เหตุบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตดี ชูหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง และธนาคารพาณิชย์น่าสน

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร หรือ เอยูเอ็มช่วงปีที่ผ่านมามีจำนวนทั้งสิ้น 93,596 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นธุรกิจกองทุนรวม 79,859 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ มีกองทุนรวมที่ลงทุนในเกาหลีใต้มีจำนวนทั้งสิ้น 17,937 ล้านบาท ส่วนธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือโพรวิเดนท์ฟันด์มีเงินลงทุนรวม 5,050 ล้านบาท และธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล 8,687 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของบริษัทไว้ที่ 105,000 ล้านบาท และในปี 2555 บริษัทตั้งเป้าโตเพิ่มขึ้นอีกเป็น 200,000 ล้านบาท

โดยในปีนี้เป้าการเติบโตที่ได้ จะได้มาจากกองทุนรวมโรลโอเวอร์และกองทุนรวมพันธบัตรในประเทศ ที่จะออกเพื่อมารองรับกลุ่มลูกค้ากองทุนรวมเกาหลีใต้ที่จะครบอายุและสามารถดึงนักลงทุนไทยกลับมาได้ รวมถึงกองทุนใหม่ ๆ ที่จะออกมาด้วย ขณะเดียวกันการขายผ่านช่องทางอื่น ๆ ก็มีมากขึ้น หลังจากที่บริษัทได้ควบรวมกับ บลจ. นครหลวงไทยแล้ว ซึ่งจะทำให้ช่องทางการขายมีมากขึ้น โดยในขณะนี้ สาขาของธนาคารธนชาตมีจำนวน 250 สาขา ส่วนของธนาคารนครหลวงไทยมี 420 สาขา ทำให้ช่องทางการจำหน่ายกองทุนมีสาขาเพิ่มเป็นกว่า 670 สาขา ขณะเดียวกันตัวแทนขายมีประมาณเกือบ 1,000 สาขา รวมถึงช่องทางการขายผ่านทางธนาคารออมสินที่จะเพิ่มเข้ามา และช่องทางการขายผ่านอีชาแนลด้วยที่จะทำให้บลจ. มีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น

"ในปีนี้เราต้องทำงานเป็น 2 เท่า และเราต้องลงพื้นที่เพื่อให้ข้อมูลกับสาขาต่าง ๆ ทั้งบริษัทมากขึ้น เนื่องจากว่า ลูกค้าเรายังใหม่และลูกค้าบางรายยังไม่ค่อยรู้จักเรามากนัก ดังนั้นเมื่อมีการควบรวมเราจึงเหมือนเป็นตัวกลางในการดูแลบริหารทั้ง 2 บลจ.อยู่ด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมาแผนการออกกองทุนใหม่ของทั้ง บลจ.นครหลวงไทย และ บลจ.ธนชาตเองต้องชะลอออกไป ซึ่งก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่า บลจ.นครหลวงไทย เดิมมีแผนออกกองทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีจำนวนมากในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา" นายบุญชัย กล่าว

ด้านนายตระกูลจิตร จิตตไสยพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยถึงการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ว่า แนวโน้มการปรับตัวมีเพิ่มขึ้นอีกมาอยู่ที่ระดับ 1,200 จุด หรือเติบโตจากปีก่อน 15-20% เนื่องจากว่ามุมมองของต่างชาติยังเห็นว่าไทยเองมีสภาพเศรษฐกิจที่ดี และมีบริษัทจดทะเบียนที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยเองมีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในยุโรปและสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าเชื่อว่ายุโรปจะมีความน่าสนใจต่อการลงทุนเพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมาในช่วง 1 - 2 ปีได้อยู่ในจุดที่แย่แล้ว และคาดว่าปีหน้าจะไม่มีอะไรที่แย่ลงไปกว่านี้ เพราะในขณะนี้จะเห็นได้ว่ายุโรปเองเริ่มมีการพลิกฟื้นกลับขึ้นมาดีเป็นลำดับถัาเทียบกับสหรัฐอเมริกา และหุ้นยุโรปเองในขณะนี้ก็มีราคาที่ถูกด้วย

"ลงทุนในตลาดหุ้นไทยในปีนี้อาจมีความผันผวนอยู่ที่ 50-100 จุด ตามสภาพคล่องในประเทศและทั่วโลก แต่นักลงทุนต่างประเทศยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะหลังการจัดงานไทยแลนด์โฟกัส ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความสนใจในตลาดหุ้นไทย และบริษัทจดทะเบียนมากขึ้น เนื่องจากยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดี โดยหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ คือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และธนาคารพาณิชย์"
กำลังโหลดความคิดเห็น