“ภาคย์” พิธีกรหนุ่มรุ่นใหม่ ออมแบบง่ายๆ กับสหกรณ์ ...มั่นใจกว่า

การออมเงินที่คนทั่วไปนิยมกันมากที่สุดเห็นทีจะเป็นการฝากธนาคารเพราะคิดว่าปลอดภัยไร้ความเสี่ยง แถมยังได้รับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอในรูปของดอกเบี้ย แต่การฝากเงินอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดหากรัฐบาลยกเลิกการประกันเงินฝากไป และการฝากเงินอาจไม่ส่งผลดีในระยะยาว

เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อทำให้ข้าวของแพงขึ้นด้วย ดังนั้นแทนที่จะออมเพียงอย่างเดียว อาจเพิ่มผลตอบแทนโดยรวมให้สูงขึ้นได้ด้วยการนำเงินไปลงทุนบ้าง ซึ่งถ้าใครคิดที่จะลงทุนแล้วก็ต้องมีการศึกษากันให้ดีเสียก่อนการลงทุนทุกครั้ง

คอลัมน์ “เจาะพอร์ตคนดัง”สัปดาห์นี้เราจะพาไปพูดคุยกับพิธีกรรุ่นใหม่ที่มากด้วยความสามารถ จากรายการเดอะ ฮันท์...ถ้าใช่ ได้เกิด“ภาคย์- วชิรกรัณฑ์ วิชรศรัณย์ภัทร” ซึ่งเด็กหนุ่มคนนี้มีวินัยทางการออมอย่างเป็นระบบระเบียบในแบบฉบับของตัวเขาเอง...

“ภาคย์” เริ่มบอกว่า เศรษฐกิจบ้านเราในตอนนี้อยากที่จะให้มีกระตุ้นสินค้าโอท๊อปให้มากขึ้น เพราะเราจะเห็นถึงภูมิปัญญาของชาวบ้านหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่างนั้นมันมีคุณค่าและงดงามมาก ๆ สินค้าบางอย่างติดอันดับ 3 - 5 ของโลกเลยก็มี ซึ่งอยากให้มีการกระตุ้นในส่วนนี้มาก ๆ เพราะในบางครั้งเด็กรุ่นใหม่ ๆ เองก็ยังไม่ค่อยรู้จักกับสินค้าพื้นบ้านมากนัก ถ้ามันมีการสนับสนุนกันมากขึ้นกับสินค้าในบ้านเราก็จะสามารถทำให้เศรษฐกิจมีการขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี

สำหรับการออมเงินในปัจจุบันกับรายได้ที่เข้ามา “ภาคย์” บอกว่า “เมื่อมีรายได้เข้ามาจะต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายของแต่ละเดือน และที่เหลือจะเก็บสะสมไว้ในออมทรัพย์ของสหกรณ์ เพราะตอนเด็ก ๆ เราเคยออมแบบนี้ และเห็นว่าสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี ผมก็เลยเก็บเงินในรูปแบบนี้มีตลอด

“ภาคย์” บอกเพิ่มเติมว่า การออมเงินมันเป็นการฝึกนิสัยให้เราเป็นคนรู้จักประหยัดอดออม เราจะรู้จักใช้เงินเป็นอย่างมีระบบมากยิ่งขึ้น เพราะเราจะรู้ว่าสิ่งไหนควรซื้อและสิ่งไหนไม่ควรซื้อ เพราะในบางครั้งเราจะมีค่าใช้จ่ายของอนาคตอย่างที่ไม่คาดฝัน เช่นอาจจะเจ็บไข้ได้ป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น

กับการทำงานครั้งแรกของ “ภาคย์” บอกว่า เริ่มต้นตอนอายุ 19 ปี ช่วยทำงานด้านละคร แบกไฟบ้าง ทำทุกอย่างที่พี่ ๆ ต้องการให้เราทำ ได้เงินก็ไม่ได้เยอะมากมายอะไร จึงทำให้เรารู้ถึงความเหน็ดเหนื่อยและคุณค่าของเงินมาก เพราะเงินทองเป็นสิ่งของที่หามาได้ยากเย็น ถ้าเราใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยก็จะทำให้เราหมดไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น ซึ่งเราก็ต้องมีการประมาณตนเองอยู่ตลอดเวลา

ส่วนงานด้านวงการบันเทิงขณะนี้ "ภาคย์" เป็นพิธีกรรายการ “เดอะ ฮันท์...ถ้าใช่ ได้เกิด”ทางทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี วันอาทิยต์ เวลา 10.00-10.30 น. รวมถึงเป็นพิธีกรภาคสนามรายการ “แวทู” ทางช่องแบงชาแนล นอกจากนี้แล้วยังรับงานเป็นพิธีกรตามงานอีเว้นท์นอกสถานที่ต่าง ๆ ด้วย

สำหรับหลักและแนวคิดในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ “ภาคย์” บอกว่า “เราต้องพอใจกับงานที่เราทำและทำอย่างตั้งใจ เพราะมันจะเป็นการพัฒนาตัวเราให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเราต้องมีการเรียนรู้สิ่งใหม่ที่จะเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ นอกจากนี้แล้วเราต้องมีการฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ในหลาย ๆ ด้านเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับทีมงานเพื่อให้เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

“ภาคย์” บอกต่ออีกว่า ความใฝ่ฝันในอนาคตอยากที่จะมีร้านอาหารให้คุณแม่ เพราะคุณแม่ทำอาหารอร่อยมาก เคยเปิดกิจการร้านอาหารอยู่หลายครั้งที่หาดใหญ่ แต่ต้องเจอมรสุมด้านเศรษฐกิจอยู่ตลอดเวลา ทำให้ต้องมีการปิดตัวไป ซึ่งถ้าในวันข้างหน้าเก็บเงินได้สักก้อนหนึ่งก็จะอยากเปิดร้านอาหารที่ต่างจังหวัดให้กับคุณแม่ แต่คราวนี้อาจจะเป็นที่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เพราะได้เที่ยวแล้วรู้สึกชื่นชอบจังหวัดและมีอะไรที่น่าสนใจหลาย ๆ อย่าง

ทั้งนี้เมื่อว่างจาการทำงานแล้ว “ภาคย์” จะชอบไปวัดกับคุณแม่ ไปถวายสังฑทานกัน หรือบางครั้งก็มีบ้างที่ไปเที่ยวกับเพื่อนเพราะเป็นคนชอบเต้น รวมถึงดูหนังฟังเพลงก็มีบ้าง แต่ถ้ามีวันหยุดที่ยาว ๆ หน่อยก็อาจจะไปตามต่างจังหวัดกับเพื่อน ๆ บ้างก็มี

สุดท้าย “ภาคย์” ฝากบอกว่า เราต้องรู้จักตัวเอง รู้จักควบคุม และต้องรู้จักใช้จ่าย ซึ่ง 3 อย่างนี้เราต้องรู้ว่าตัวเราเองมีเท่าไหร่และสามารถใช้จ่ายได้เท่าไหร่ ดังนั้นเราต้องมีสติอยู่ตลอดเวลาว่าสิ่งของที่เราจะตัดสินใจซื้อไปนั้นมันเหมาะสมและมีการใช้ประโยชน์ได้มากน้อยเพียงใด