"จริง ๆ แล้วในตอนแรกแอ้มจะไม่ค่อยรู้ในเรื่องของการบริหารเงินออมมากสักเท่าไหร่ นอกจากการออมทรัพย์และการใช้บัตรเครดิตมากกว่า แต่พอได้แต่งานกับพี่โก้และอ่านหนังสือก็รู้ว่ามันมีการลงทุนอะไรที่สร้างผลตอบได้อีก ซึ่งพอได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็ยิ่งเข้าใจและรู้ว่าถ้าเราตกงานเราต้องมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน และยิ่งสถานการณ์บ้านเมืองเป็นแบบนี้เราต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก”
ปัญหาด้านการเมืองและเศรษฐกิจทุกวันนี้ยังคงไม่ค่อยมั่นคงมากนัก ดังนั้นคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ ต้องรู้จักการเก็บออมและบริหารเงินในกระเป๋าของเราไว้เผื่ออนาคตด้วย เพราะทุกสิ่งย่อมเกิดขึ้นได้ เช่นถ้าบริษัทที่เราทำงานอยู่เกิดปรับลดจำนวนพนักงานลง หรือเกษียณก่อนกำหนดอย่างไม่ตั้งใจและไม่ได้วางแผนล่วงหน้า ถ้าไม่มีเงินออมเก็บสะสมไว้บ้างมันก็จะทำให้เราดูจะเครียดไปซักหน่อย แต่ถ้าเรามีการเก็บออมไว้บ้างเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่มีอย่างแน่นอนเพราะเราได้วางแผนเงินในกระเป๋าของเราไว้เรียบร้อยแล้ว
เช่นเดียวกับสองสามีภรรยา "คุณโก้ - รัชชพล เหล่าวานิช ผู้ดำเนินรายการ 101 ปฏิบัติการพลิกชีวิต ทางวิทยุ FM 101 และคุณแอ้ม - สโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้อำนวยการ TAN Network และพิธีกรเมืองไทยรายสัปดาห์" ซึ่งวันนี้ ทั้งสอง จะมาร่วมเล่าเรื่องราวของตัวเองที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตของชีวิตว่าเป็นอย่างไร และสามารถผ่านพ้นมาได้อย่างไร ผ่าน "คอลัมน์ เจาะพอร์ตคนดัง"
พลิกวิกฤตชีวิตเป็นโอกาส
คุณโก้ : ก่อนที่ผมจะออกจากงานที่ตลาดหลักทรัพย์ ผมก็ปรึกษากับภรรยา (คุณแอ้ม สโรชา พรอุดมศักดิ์) ว่าจะออกดีมั้ย เพราะมันเป็นการออกจากงานก่อนที่เราเกษียณอายุ ก็คิดอยู่นานพอสมควร เพราะตอนนั้นเราไม่มีเงินเก็บและไม่เคยเก็บออมมาตลอดระยะเวลา 40 ปี จนคุณแอ้มโอเคบอกออกก็ออกก็ตัดสินใจออกมา เราก็มีเงินอยู่ก้อนหนึ่งซึ่งไม่มากและก็มีเงินกองทุนสำรองเลียงชีพอีกนิดหน่อย ซึ่งตอนนั้นก็ยอมรับว่าตกงานอยู่ประมาณหลายเดือน ดูชีวิตมันจะไร้ค่าเพราะไม่มีอะไร จนกระทั่งได้มาจัดรายการวิทยุช่วงเช้าพูดคุยเรื่องราวการเมืองที่เกิดขึ้นก่อน และต่อจากนั้นก็มาลองจัดรายการด้านเศรษฐกิจดูบ้าง จนกระทั่งได้มาเขียนบทความคอลัมน์ “101 ปฏิบัติการพลิกชีวิต”** ลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน หลังจากนั้นถัดมาผมก็ออกหนังสือเรื่อง** “เรื่อง เงินตรา ความรัก ชีวิตคู่” ภายในหนังสือได้บอกเล่าถึงเคล็ดลับในการบริหารจัดการเงินส่วนบุคคล ตั้งแต่การเลือกเล่นหุ้น ตราสารหนี้ ประกันชีวิต ไปจนถึงการบริหารจัดการหนี้บ้าน บัตรเครดิต และการบริหารเงินหลังเกษียณอายุ เป็นต้นเพื่อที่จะทำให้มีอิสระภาพในชีวิตบั้นปลาย และมีเงินเพียงพอที่จะดูแลตัวเองได้อย่างมีความสุขต่อไป ซึ่งในหนังสือก็จะเป็นเรื่องราวประสบการณ์ของผมที่เกิดขึ้นโดยถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาง่าย ๆ ให้คนอ่านได้เข้าใจและไม่ซับซ้อน
คุณแอ้ม : จริง ๆ แล้วในตอนแรกแอ้มจะไม่ค่อยรู้ในเรื่องของการบริหารเงินออมมากสักเท่าไหร่ นอกจากการออมทรัพย์และการใช้บัตรเครดิตมากกว่า แต่พอได้แต่งานกับพี่โก้และอ่านหนังสือก็รู้ว่ามันมีการลงทุนมันมีอะไรที่สร้างผลตอบได้อีก ซึ่งพอได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็ยิ่งเข้าใจและรู้ว่าถ้าเราตกงานเราต้องมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน และยิ่งสถานการณ์บ้านเมืองเป็นแบบนี้เราต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
คู่นี้ใครเป็นคนเก็บเงิน
คุณโก้ : เราจะมีการพูดคุยกันก่อนแต่งงานว่า เรามีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ของแต่ละคนในแต่ละเดือนในภาระของแต่ละคนก็จะหักออกมากเลย และที่เหลือก็จะอยู่ในบัญชีกลางที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องใหญ่ ๆ ด้านการลงทุนผมจะเป็นคนจัดการทั้งหมด แต่ถ้าเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้านจะเป็นคุณแอ้มจะเป็นคนดูแลมากกว่า
คุณแอ้ม : หลังจากแต่งงานแล้วยอมรับว่าสามีให้ความรู้ด้านการลงทุนเยอะมาก เพราะก่อนหน้านี้เราจะไม่มีความรู้เรื่องนี้มากนัก ซึ่งสามีก็จะอธิบายว่ากองทุนรวม RMF และ LTF เป็นอย่างไร สามารถนำไปหักลดภาษีได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีความรู้เลยในปี ๆ หนึ่งเราก็เสียภาษีสูงมาก สามีก็เข้ามาช่วยดูแลให้ในส่วนตรงนี้ส่วนเราเองก็ดูแลค่าใช้จ่ายภายในบ้าน
คุณโก้: ก่อนหน้านี้ภรรยาผมจะตกใจและคิดมากเมื่อเห็นเงินในบัญชีออมทรัพย์ลดลงไป ก็คิดว่าเราไม่มีเงิน ผมก็อธิบายให้ฟังว่าได้นำไปลงทุนรูปแบบอื่น ๆ แทน ผมก็ต้องอธิบายให้ฟังว่าเงินในบัญชีเราก็ไม่ควรจะมีเกิน 1 ล้านบาท ก็ต้องกระจายไปทางอื่นด้วย
อุปสรรคด้านการเงินก่อนแต่งงาน
คุณโก้ : ยอมรับว่าอุปสรรคมีมาก เพราะค่าขันหมากแพงมาก เราจะไปขอลูกสาวเขามันก็ต้องมีอะไรที่มั่นคง ที่จะสามารถดูแลลูกสาวคนเดียวของครอบครัวเขาได้ เราก็ต้องประหยัดอดออมสุดท้ายก็ได้มาอยู่ด้วยกัน
คุณแอ้ม : ต้องบอกก่อนว่าคุณแม่จะมีบททดสอบเยอะมาก เพราะจากที่เราได้เล่าถึงตัวพี่โก้ให้คุณแม่ฟังว่าพี่โก้มีบุคลิกนิสัยอย่างไรนั้น ในตอนแรกคุณแม่ก็ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ จนกระทั้งช่วงที่มีม๊อบทางการเมืองเกิดขึ้นพี่เขาก็ดูแลเราห่วงใยเราตลอด ทั้งที่เวทีก็มาหาทุกวันหลังจากที่เสร็จงานจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วก็ทำให้ที่บ้านไว้เนื้อเชื่อใจได้ ทำให้ให้พิสูจน์ว่าสามารถดูแลเราได้ส่วนค่าสินสอดที่คุณแม่ตั้งไว้นั้นก็เป็นการการันตีว่าพี่เขาจะสามารถลูกสาวของคุณแม่ได้นะ ซึ่งพี่เขาก็ประหยัดสุด ๆ จนผ่านพ้นมีวันนี้ได้
ฝากอะไรทิ้งท้าย
คุณโก้ : ผมเคยไม่จดบันทึกในเรื่องค่าใช้จ่ายประมาณ 2 - 3 เดือนยอมรับค่าใช้จ่ายเรามันจะแกว่ง ๆ พอเริ่มหันมาจดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนแล้วมันจะทำให้เราเห็นชัดมากขึ้น และเก็บเงินได้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น
คุณแอ้ม : อยากฝากถึงหนังสือเล่มนี้ เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญมากและใกล้ตัวมาก เพราะมันจะบอกถึงสูตรการออมเท่านี้ใช้เท่านี้ หรือการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ในรูปแบบที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย