บลจ.วรรณ เผยดัชนีหุ้นตลาดเกิดใหม่ รับผลกระทบนักลงทุนวิตกกังวลเศรษฐกิจยุโรป ระบุไม่หวั่นผลกระทบต่อกองทุนเปิด 1AM-GEM แม้ให้น้ำหนักลงทุนยุโรปและลาตินถึง 50% มองเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น ล่าสุดพร้อมพอร์ตถือเงินสดเพิ่ม รอจังหวะเข้าช่วงดัชนีปรับฐาน เชื่อผลตอบแทนมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น แนะนักลงทุนทยอยซื้อเก็บเข้าพอร์ต
นายสันธาน เฮงตระกูล ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)วรรณ เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดเกิดใหม่ในขณะนี้ได้รับผลกระทบจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงไป 5-6% โดยมีสาเหตุมาจากนักลงทุนเกิดความวิตกกังวลในเศรษฐกิจของยุโรปอาทิประเทศ กรีซ สเปน ที่มีหนี้สาธารณะสูงขึ้น เมื่อเทียบกับผลิตภัฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งส่งผลให้ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนลดลงไปด้วย
ทั้งนี้ วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในฝั่งยุโรปมองว่าเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น โดยคาดว่าในครึ่งปีหลังปัจจัยดังกล่าวจะมีการคลี่คลาย และมีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวดีขึ้นเมื่อมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว อีกทั้งจะทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล และกล้าที่จะกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้งเพราะถือเป็นจังหวะที่ดีในการสร้างผลตอบแทน
ขณะเดียวกัน การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลก ได้ส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนและมูลค่าหน่วยลงทุนกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก และกองทุนที่ลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ โดยเป็นสาเหตุให้มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดวรรณเอเอ็ม โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอควิตี้ (1AM-GEM) ซึ่งลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 9 บาทกว่า
"การที่มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด1AM-GEM ปรับตัวลงไปอยู่ที่ 9 บาทกว่า ถือว่าการลงทุนในช่วงราคาดังกล่าวนั้นน่าสนใจ โดยโอกาสที่ผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากแนวโน้มกลุ่มประเทศเกิดใหม่ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับหลายๆประเทศ จึงอยากแนะนำให้นักลงทุนที่สนใจการลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เริ่มทยอยเข้าลงทุนในช่วงที่ราคาปรับตัวลดลง "นายสันธานกล่าว
สำหรับกองทุนเปิด1AM-GEM เป็นกองทุนที่ลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ที่มีการเจริญเติบโตที่ดี เช่น ประเทศจีน และอินเดีย โดยปีนี้คาดว่าเอ็นเอวีของกองทุนมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากว่าเศรษฐกิจของประเทศที่กองทุนดังกล่าวได้เข้าไปลงทุน เช่น จีน มีการอัตราการเติบโตที่ดี จากการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นด้วย
ในส่วนของการลงทุนของกองทุนเปิด 1AM-GEM มีการปรับพอร์ตการลงทุนบ้างเล็กน้อย โดยการเปลี่ยนมาถือเงินสดในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น เพื่อรอดูจังหวะที่ตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลง และกองทุนจะเข้าไปลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้กองทุนดังกล่าวให้น้ำหนักการลงทุนในทวีปเอเชียในสัดส่วนประมาณ 50% ของพอร์ตการลงทุนและที่เหลืออีก 50% ลงทุนในยุโรปและลาติน
อย่างไรก็ตาม การที่กลุ่มประเทศในยุโรปกำลังประสบกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอยู่ในขณะนี้ ผู้จัดการกองทุน กล่าวว่า การเลือกลงทุนในยุโรป กองทุนจะเน้นเลือกลงทุนเป็นรายประเทศไป โดยแต่ละประเทศที่กองทุนเข้าไปลงทุนไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวมากนัก อีกทั้งอัตราการเติบโตของประเทศที่เข้าลงทุนยังดีอยู่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในทวีปเดียวกัน
นายสันธาน กล่าวอีกว่า "สำหรับกองทุนเปิด1AM-GEM ที่ผ่านมานักลงทุนได้มีการโยกเงินออกจากกองทุนดังกล่าวบ้าง และมีนักลงทุนกลับเข้ามาลงทุน โดยส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลง ซึ่งแล้วแต่ระยะเวลาในขณะนั้นด้วย ซึ่งในฐานะผู้จัดการกองทุนจะหน้าที่บริหารให้กองทุนมีผลตอบแทนที่ดี และคาดว่าเมื่อกองทุนสามารถให้ผลตอบแทนดี นักลงทุนจะสนใจเข้ามาลงทุนและจะทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน(เอยูเอ็ม)ปรับตัวดีขึ้นด้วย
นายสันธาน เฮงตระกูล ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)วรรณ เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดเกิดใหม่ในขณะนี้ได้รับผลกระทบจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงไป 5-6% โดยมีสาเหตุมาจากนักลงทุนเกิดความวิตกกังวลในเศรษฐกิจของยุโรปอาทิประเทศ กรีซ สเปน ที่มีหนี้สาธารณะสูงขึ้น เมื่อเทียบกับผลิตภัฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งส่งผลให้ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนลดลงไปด้วย
ทั้งนี้ วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในฝั่งยุโรปมองว่าเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น โดยคาดว่าในครึ่งปีหลังปัจจัยดังกล่าวจะมีการคลี่คลาย และมีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวดีขึ้นเมื่อมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว อีกทั้งจะทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล และกล้าที่จะกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้งเพราะถือเป็นจังหวะที่ดีในการสร้างผลตอบแทน
ขณะเดียวกัน การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลก ได้ส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนและมูลค่าหน่วยลงทุนกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก และกองทุนที่ลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ โดยเป็นสาเหตุให้มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดวรรณเอเอ็ม โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอควิตี้ (1AM-GEM) ซึ่งลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 9 บาทกว่า
"การที่มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด1AM-GEM ปรับตัวลงไปอยู่ที่ 9 บาทกว่า ถือว่าการลงทุนในช่วงราคาดังกล่าวนั้นน่าสนใจ โดยโอกาสที่ผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากแนวโน้มกลุ่มประเทศเกิดใหม่ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับหลายๆประเทศ จึงอยากแนะนำให้นักลงทุนที่สนใจการลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เริ่มทยอยเข้าลงทุนในช่วงที่ราคาปรับตัวลดลง "นายสันธานกล่าว
สำหรับกองทุนเปิด1AM-GEM เป็นกองทุนที่ลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ที่มีการเจริญเติบโตที่ดี เช่น ประเทศจีน และอินเดีย โดยปีนี้คาดว่าเอ็นเอวีของกองทุนมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากว่าเศรษฐกิจของประเทศที่กองทุนดังกล่าวได้เข้าไปลงทุน เช่น จีน มีการอัตราการเติบโตที่ดี จากการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นด้วย
ในส่วนของการลงทุนของกองทุนเปิด 1AM-GEM มีการปรับพอร์ตการลงทุนบ้างเล็กน้อย โดยการเปลี่ยนมาถือเงินสดในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น เพื่อรอดูจังหวะที่ตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลง และกองทุนจะเข้าไปลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้กองทุนดังกล่าวให้น้ำหนักการลงทุนในทวีปเอเชียในสัดส่วนประมาณ 50% ของพอร์ตการลงทุนและที่เหลืออีก 50% ลงทุนในยุโรปและลาติน
อย่างไรก็ตาม การที่กลุ่มประเทศในยุโรปกำลังประสบกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอยู่ในขณะนี้ ผู้จัดการกองทุน กล่าวว่า การเลือกลงทุนในยุโรป กองทุนจะเน้นเลือกลงทุนเป็นรายประเทศไป โดยแต่ละประเทศที่กองทุนเข้าไปลงทุนไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวมากนัก อีกทั้งอัตราการเติบโตของประเทศที่เข้าลงทุนยังดีอยู่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในทวีปเดียวกัน
นายสันธาน กล่าวอีกว่า "สำหรับกองทุนเปิด1AM-GEM ที่ผ่านมานักลงทุนได้มีการโยกเงินออกจากกองทุนดังกล่าวบ้าง และมีนักลงทุนกลับเข้ามาลงทุน โดยส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลง ซึ่งแล้วแต่ระยะเวลาในขณะนั้นด้วย ซึ่งในฐานะผู้จัดการกองทุนจะหน้าที่บริหารให้กองทุนมีผลตอบแทนที่ดี และคาดว่าเมื่อกองทุนสามารถให้ผลตอบแทนดี นักลงทุนจะสนใจเข้ามาลงทุนและจะทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน(เอยูเอ็ม)ปรับตัวดีขึ้นด้วย
