บลจ.แอทเซทพลัสมั่นใจแนวโน้มตลาดหุ้นเอเชียสดใส โดยเฉพาะฮ่องกงที่เป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค เหตุเงินทุนไหลเข้าเยอะและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนชัดเจนกว่าประเทศอื่น ล่าสุดเปิดขายกองทุนใหม่ล่อใจนักลงทุน เน้นสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงจากดัชนีฮั่งเส็งระหว่างวันนี้ถึง 27 มกราคมนี้
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่าในปีนี้ภาวะเศรษฐกิจโลกน่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้เร็วและชัดเจนกว่าประเทศในกลุ่มภูมิภาคอื่นๆ
ในขณะที่ระดับอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงเห็นว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในภูมิภาคเอเชียเหนือ (North Asia ex Japan)
"จากแนวโน้มปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าภูมิภาคอื่นๆ รวมไปถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีขนาดใหญ่ในจีนและฮ่องกงที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจ รวมถึงการได้รับผลดีจากการปรับตัวขึ้นของราคาหลักทรัพย์จากเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าในภูมิภาคเอเชีย โดยมีตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางก็น่าจะส่งผลให้หุ้นของบริษัทที่ประกอบการใน Hang Seng Index มีโอกาสปรับขึ้นได้เช่นกัน"นายวินกล่าว
นอกจากนี้ จากการประเมินมูลค่า Hang Seng Index ปัจจุบันยังมีค่า P/E Ratio ในระดับที่ต่ำ ที่ประมาณ 16 เท่า และค่า P/B ที่ 1.5 เท่า โดยยังมีหลายกลุ่มธุรกิจ เช่น กลุ่มโทรคมนาคม และธนาคาร ที่ยังมีค่า P/E อยู่ในระดับที่น่าสนใจ
นอกจากนี้ หากปรับลดกลุ่มอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ออกจากดัชนี ระดับค่า P/E จะยิ่งปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 14 เท่า ในขณะที่แนวโน้มการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดฮ่องกง และบริษัทที่มีการดำเนินกิจการในจีนมีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงต่อไป ตามภาวะการปรับตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจจีน
ล่าสุด บริษัทได้ทำการเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก( IPO ) ของกองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอชเอสไอ (ASP-HSI) ตั้งแต่วันนี้ถึง 27 มกราคม 2553 โดยกองทุน ASP-HSI เป็นกองทุนต่างประเทศประเภท Feeder Fund ที่เน้นลงทุนในกองทุน Hang Seng Index ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
ซึ่งบริหารจัดการโดย Hang Seng Investment Management Limited และซื้อขายในรูปสกุลเงินฮ่องกงดอลล่าร์ เพื่อมุ่งหาผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับ Hang Seng Index (HSI) ซึ่งมีความโปร่งใสในการดำเนินงาน มีความน่าเชื่อถือของการประเมินมูลค่า และเกณฑ์ทางด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์
นอกจากนี้ กองทุนยังมีการใช้กลยุทธ์ Proxy Hedging เพื่อบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผ่านสกุลเงินที่มีทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินใกล้เคียงกับฮ่องกงดอลลาร์ ได้แก่ ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งมีต้นทุนต่ำ และสภาพคล่องสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และสามารถคาดหมายผลตอบแทนกองทุนได้จากการเคลื่อนไหวของ Hang Seng Index
“เหตุผลที่แอสเซท พลัส เลือกลงทุนในกองทุนที่อ้างอิงผลตอบแทนของ Hang Seng Index เนื่องจาก ฮั่งเส็งเป็นดัชนีแรกของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งมีจุดเด่นด้านการกระจายการลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนชั้นนำและขนาดใหญ่ที่สุดในจีน และฮ่องกง และเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงสุด นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของ Hang Seng Index มีความผันผวนน้อยที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับดัชนีหุ้นจีนอื่นๆ เช่น Hang Seng China Enterprise Index (HSCEI) ที่เป็นองค์ประกอบของหุ้นจีนทีซื้อขายที่ตลาดฮ่องกง (H-Share) และ Shanghai Stock Exchange Composite Index ที่เป็นองค์ประกอบของหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ (A-Share)"นายวินกล่าว
