นายกสมาคมบลจ.แนะลงทุนกองอสังหาฯ เชื่อให้ผลตอบแทนดีหากสามารถถือยาวได้ ชี้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นกูเอกชน แถมยังเหลือสินทรัพย์ให้ถือหากเกิดความผิดขึ้น เปรยขนาดนักลงทุนต่างชาติยังสนใจดอดเก็บเข้าพอร์ตต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเตรียมเดินหน้าเพิ่มความเข้าใจทั้งด้านนโยบายและตัวสินทรัพย์ เพื่อกระตุ้นการลงทุน
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์(property fund)นั้น ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนในการสร้างผลตอบแทนระดับสูง แต่มีข้อจำกัดว่าการลงทุนในกองทุนประเภทนี้นักลงทุนต้องสามารถลงทุนเป็นระยะเวลานานได้ อย่างไรก็ตามกองทุนนี้เหมาะกับนักลงทุนที่ชอบการฝากเงินเช่นกัน หากนักลงทุนสามารถรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบการลงทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่กองทุนเป็นเจ้าของสินทรัพย์(Freehold) กับการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนแล้วความเสี่ยงนั้นถือว่าใกล้เคียงกัน แต่ผลตอบแทนของกองอสังหาฯ จะสูงกว่า ซึ่งกองหุ้นกู้เอกชนจะมีผลตอบแทนประมาณ 5% หรือ 6% แต่กองอสังหาฯ จะอยู่ที่ประมาณ 8% นอกจากนี้บางกองทุนยังมีการการันตีผลตอบแทนให้อีกด้วย
"คนที่ชอบฝากเงินก็ลงทุนในพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ได้แต่ต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่มีสภาพคล่อง ต้องถือเอาไว้ยาว และเงินที่จะลงต้องเป็นเงินเย็น อย่าไปดูราคาตลาดว่ามันต่ำกว่า 10 บาทอะไรแบบนี้ แต่ถ้าสามารถถือเอาไว้ได้ผลตอบแทนที่ได้ก็จะสูงด้วย แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงกลัวกัน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนแล้วหากเกิดดีฟอร์ขึ้นมามันไม่เหลืออะไรเลยแต่นี้เรายังเหลือสินทรัพย์อยู่"นางวรวรรณกล่าว
นางวรวรรณ กล่าวอีกว่า การขายหน่วยลงทุนของกองทุนอสัหาฯ หลังจากนี้ต้องเน้นใน 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1. การสื่อสารให้นักลงทุนเข้าใจถึงตัวสินทรัพย์ที่จะเข้าลงทุน 2.ต้องอธิยายนโยบายการลงทุนได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้นักลงทุนนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน
"อย่างที่บอกว่าเป็นโอกาสดีของนักลงทุน แต่จะต้องสื่อให้เข้าในตัวสินทรัพย์และนโยบายมากขึ้น ซึ่งคนไทยยังไม่เข้าใจแต่ต่างชาติเขาเข้าใจ ที่ผ่านมาก็มีสถาบัน และนักลงทุนต่างประเทศแอบเข้ามาเก็บตลอดเวลา ถึงแม้ปริมาณจะยังไม่มากนัก โดยหลังจากนี้บลจ.บัวหลวงเองก็มีแผนจะออกกองทุนอสังหาฯ และกองทุนใหม่ที่ยังไม่ใครทำอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้"นางวรวรรณกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง จากข้อมูลของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2552 พบว่า กองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภท Freehold ที่มีผลตอบแทนสูงสุดอันดับ 1 ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันสูงถึง 15.62% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 19.31% ย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 35.82% ส่วนย้อนหลัง 5 ปีอยู่ที่ 56.58%
นอกจากนี้ นางวรวรรณ ยังกล่าวอีกว่า การที่หลายบลจ.ต่างออกมาแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มสัดส่วนของสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นนั้น เข้าใจว่าทางบลจ.ต่างๆ คงจะเห็นว่าการเพิ่มน้ำหนักสินทรัพย์เสี่ยงในตอนนี้น่าจะเป็นโอกาสดีในการสร้างผลตอบแทน ซึ่งหากมองการลงทุนในตลาดหุ้นแล้วอาจจะมองว่าเป็นช่วงที่ทยอยเข้าลงทุนได้แล้ว อย่างไรก็ตาม คงเป็นเพียงแค่คำแนะนำเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายแล้วจะขึ้นอยู่กับนักลงทุนว่าสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยขนาดไหนอยู่ดี
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์(property fund)นั้น ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนในการสร้างผลตอบแทนระดับสูง แต่มีข้อจำกัดว่าการลงทุนในกองทุนประเภทนี้นักลงทุนต้องสามารถลงทุนเป็นระยะเวลานานได้ อย่างไรก็ตามกองทุนนี้เหมาะกับนักลงทุนที่ชอบการฝากเงินเช่นกัน หากนักลงทุนสามารถรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบการลงทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่กองทุนเป็นเจ้าของสินทรัพย์(Freehold) กับการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนแล้วความเสี่ยงนั้นถือว่าใกล้เคียงกัน แต่ผลตอบแทนของกองอสังหาฯ จะสูงกว่า ซึ่งกองหุ้นกู้เอกชนจะมีผลตอบแทนประมาณ 5% หรือ 6% แต่กองอสังหาฯ จะอยู่ที่ประมาณ 8% นอกจากนี้บางกองทุนยังมีการการันตีผลตอบแทนให้อีกด้วย
"คนที่ชอบฝากเงินก็ลงทุนในพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ได้แต่ต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่มีสภาพคล่อง ต้องถือเอาไว้ยาว และเงินที่จะลงต้องเป็นเงินเย็น อย่าไปดูราคาตลาดว่ามันต่ำกว่า 10 บาทอะไรแบบนี้ แต่ถ้าสามารถถือเอาไว้ได้ผลตอบแทนที่ได้ก็จะสูงด้วย แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงกลัวกัน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนแล้วหากเกิดดีฟอร์ขึ้นมามันไม่เหลืออะไรเลยแต่นี้เรายังเหลือสินทรัพย์อยู่"นางวรวรรณกล่าว
นางวรวรรณ กล่าวอีกว่า การขายหน่วยลงทุนของกองทุนอสัหาฯ หลังจากนี้ต้องเน้นใน 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1. การสื่อสารให้นักลงทุนเข้าใจถึงตัวสินทรัพย์ที่จะเข้าลงทุน 2.ต้องอธิยายนโยบายการลงทุนได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้นักลงทุนนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน
"อย่างที่บอกว่าเป็นโอกาสดีของนักลงทุน แต่จะต้องสื่อให้เข้าในตัวสินทรัพย์และนโยบายมากขึ้น ซึ่งคนไทยยังไม่เข้าใจแต่ต่างชาติเขาเข้าใจ ที่ผ่านมาก็มีสถาบัน และนักลงทุนต่างประเทศแอบเข้ามาเก็บตลอดเวลา ถึงแม้ปริมาณจะยังไม่มากนัก โดยหลังจากนี้บลจ.บัวหลวงเองก็มีแผนจะออกกองทุนอสังหาฯ และกองทุนใหม่ที่ยังไม่ใครทำอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้"นางวรวรรณกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง จากข้อมูลของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2552 พบว่า กองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภท Freehold ที่มีผลตอบแทนสูงสุดอันดับ 1 ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันสูงถึง 15.62% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 19.31% ย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 35.82% ส่วนย้อนหลัง 5 ปีอยู่ที่ 56.58%
นอกจากนี้ นางวรวรรณ ยังกล่าวอีกว่า การที่หลายบลจ.ต่างออกมาแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มสัดส่วนของสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นนั้น เข้าใจว่าทางบลจ.ต่างๆ คงจะเห็นว่าการเพิ่มน้ำหนักสินทรัพย์เสี่ยงในตอนนี้น่าจะเป็นโอกาสดีในการสร้างผลตอบแทน ซึ่งหากมองการลงทุนในตลาดหุ้นแล้วอาจจะมองว่าเป็นช่วงที่ทยอยเข้าลงทุนได้แล้ว อย่างไรก็ตาม คงเป็นเพียงแค่คำแนะนำเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายแล้วจะขึ้นอยู่กับนักลงทุนว่าสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยขนาดไหนอยู่ดี