บลจ.กรุงไทยประเมินเศรษฐกิจเกาหลีส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน หนุนสภาพคล่องทางการเงินปรับตัวดีขึ้น ล่าสุดส่ง "กรุงไทยตราสารต่างประเทศเอฟไอเอฟ24เดือน1" ลุยพันธบัตรรัฐบาลเกาหลี ให้ผลตอบเเทนประมาณ 4% ต่อปี เปิดขายไอพีโอเเล้วตั้งเเต่วันนี้ถึง 14 กรกฎาคม
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าภาวะการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ส่งสัญญาณดีขึ้นอย่างชัดเจน และที่ผ่านมามีกระแสเงินทุนไหลเข้าค่อนข้างมากทำให้สภาพคล่องทางการเงินของเกาหลีใต้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนสุทธิจากเงินลงทุนในตราสารภาครัฐเกาหลีใต้ ยังคงยืนอยู่ในระดับสูงได้ เนื่องจากมาตรการยกเว้นภาษีสำหรับผลตอบแทนจากเงินลงทุนในตราสารภาครัฐเกาหลีใต้
ทั้งนี้ บลจ.อยู่ในช่วงเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารต่างประเทศเอฟไอเอฟ24เดือน1 (KTFIF24M1) ระหว่างวันที่ 8-14 กรกฎาคม 2552 ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ (Korea Treasury Bond) หรือพันธบัตรธนาคารกลางเกาหลีใต้ (Monetary Stabilization Bond) ซึ่งมีสถานะเป็นตราสารหนี้ภาครัฐ (Sovereign Status) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสำหรับสกุลเงินในประเทศระดับ AA โดยคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 4.00% ต่อปี และกองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
โดยกองทุนมีมูลค่า 5,000 ล้านบาท อายุโครงการ 24 เดือน บริษัทจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกระยะเวลาประมาณ 6 เดือน และสำหรับการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติครั้งสุดท้ายเเละบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนในส่วนที่เหลืออยู่ทั้งหมดของกองทุนนี้ โดยจะทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ไปยังกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ (KTSS)
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารต่างประเทศเอฟไอเอฟ 24 เดือน 1 จะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก และ/หรือตราสารทางการเงินต่างประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ทั่วไป และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด ทั้งนี้ กองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) เช่น การทำสัญญาสวอป และ/หรือสัญญาฟอร์เวิร์ด (Forward)ที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Foreign xchange Rate Risk) แต่กองทุนจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ6เดือนคุ้มครองเงินต้น 4 (KTFIX6M4) ถึงวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในประเทศ และเงินฝากธนาคารพาณิชย์โดยมีผลตอบแทนประมาณการที่ 0.80% ต่อปี ไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในตราสารที่มุ่งจะให้เกิดความคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝาก ที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก หรือทรัพย์สินอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าภาวะการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ส่งสัญญาณดีขึ้นอย่างชัดเจน และที่ผ่านมามีกระแสเงินทุนไหลเข้าค่อนข้างมากทำให้สภาพคล่องทางการเงินของเกาหลีใต้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนสุทธิจากเงินลงทุนในตราสารภาครัฐเกาหลีใต้ ยังคงยืนอยู่ในระดับสูงได้ เนื่องจากมาตรการยกเว้นภาษีสำหรับผลตอบแทนจากเงินลงทุนในตราสารภาครัฐเกาหลีใต้
ทั้งนี้ บลจ.อยู่ในช่วงเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารต่างประเทศเอฟไอเอฟ24เดือน1 (KTFIF24M1) ระหว่างวันที่ 8-14 กรกฎาคม 2552 ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ (Korea Treasury Bond) หรือพันธบัตรธนาคารกลางเกาหลีใต้ (Monetary Stabilization Bond) ซึ่งมีสถานะเป็นตราสารหนี้ภาครัฐ (Sovereign Status) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสำหรับสกุลเงินในประเทศระดับ AA โดยคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 4.00% ต่อปี และกองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
โดยกองทุนมีมูลค่า 5,000 ล้านบาท อายุโครงการ 24 เดือน บริษัทจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกระยะเวลาประมาณ 6 เดือน และสำหรับการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติครั้งสุดท้ายเเละบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนในส่วนที่เหลืออยู่ทั้งหมดของกองทุนนี้ โดยจะทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ไปยังกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ (KTSS)
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารต่างประเทศเอฟไอเอฟ 24 เดือน 1 จะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก และ/หรือตราสารทางการเงินต่างประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ทั่วไป และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด ทั้งนี้ กองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) เช่น การทำสัญญาสวอป และ/หรือสัญญาฟอร์เวิร์ด (Forward)ที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Foreign xchange Rate Risk) แต่กองทุนจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ6เดือนคุ้มครองเงินต้น 4 (KTFIX6M4) ถึงวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในประเทศ และเงินฝากธนาคารพาณิชย์โดยมีผลตอบแทนประมาณการที่ 0.80% ต่อปี ไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในตราสารที่มุ่งจะให้เกิดความคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝาก ที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก หรือทรัพย์สินอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.