บลจ.กรุงไทยผลงานเข้าตาสำนักงานประกันสังคม ได้รับเลือกบริหารเงินกองทุน 6,000 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 5 ปี "สมชัย" ชู การบริหารจัดการกองทุนรวมที่ดี พร้อมรางวัลการันตีจากลิปเปอร์ จึงได้รับเลือก ส่วนการบริหารพอร์ต เน้นลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ให้ผลตอบเเทนที่ดีตามกรอบ สปส.
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางบลจ.ได้รับเลือกจากสำนักงานประกันสังคม หรือ สปส.ให้เข้ามาบริหารกองทุนของประกันสังคมจำนวนเงิน 6,000 ล้านบาท ซึ่งมีกรอบระยะเวลาในการบริหารกองทุนประกันสังคมประมาณ 5 ปี โดยเราคาดว่าเหตุผลที่บลจ.กรุงไทยได้รับการคัดเลือกให้เข้ามาบริหารกองทุน น่าจะมาจากบริษัทมีระบบการบริหารจัดการกองทุนรวมที่ดี ทั้งการบริหารความเสี่ยง ระบบการปฏิบัติงาน การทำรายงานการลงทุนในกับ สปส. รวมถึงการได้รับรางวัลการันตีจาก ลลิปเปอร์ อีกด้วยซึ่งตรงนี้อาจจะได้รับการพิจาณาเป็นพิเศษ
สำหรับการบริหารกองทุนนั้น ทางสำนักงานประกันสังคมจะเป็นผู้กำหนดสัดส่วนในการลงทุนว่า ทางบลจ.สามารถลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทใดได้บ้าง พร้อมกับกำหนดว่า บลจ.สามารถลงทุนในตราสารหนี้ เเละตราสารทุนได้ไม่เกินสัดส่วนที่เท่าไร โดยเราก็ต้องบริหารตามกรอบที่สปส.วางไว้
ในส่วนของผลตอบเเทนนั้น ก็คงเป็นตามตลาดเเละทิศทางเศรษฐกิจ ซึ่งเเน่นอนว่าต้องเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยเเละให้ผลตอบเเทนที่ดี ในขณะเดียวกันทางประกันสังคมได้กำหนดเกณฑ์มาตรฐานของกองทุนไว้ ซึ่งเราต้องบริหารกองทุนไม่ให้ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้เพื่อเป็นตัววัดความสามารถในการบริหารกองทุน
"การบริหารพอร์ตของกองทุนประกันสังคมนั้นต้องคำนึงถึงความเสี่ยง ซึ่งทางสปส.เองก็กำหนดการลงทุนมาไว้ ว่าต้องไม่ลงทุนอะไรที่เสี่ยงมากเกิน ซึ่งทางประกันสังคมก็กำหนดเรื่องเกณฑ์มาตรฐานของกองทุนไว้ด้วยว่าเราจะต้องบริหารไม่ให้ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน" นายสมชัยกล่าว
ในส่วนของมติของคณะกรรมการสปส.เรื่องปรับลดเงินสมทบเข้ากองทุนทั้งฝ่ายนายจ้างเเละลูกจ้างจากร้อยละ 2 จากเดิมร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 3นั้น อาจไม่ส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินจำนวนเงิน 6,000 พันล้านบาท ที่บลจ.กรุงไทยไบริหารเนื่องจากเงินดังกล่าวเป็นเงินจาก 5 บลจ.ที่เคยบริหารไว้ก่อน
นายสมชัย กล่าวอีกว่า การลดจำนวนเงินสมทบของนายจ้างเเละลูกจ้างนั้นจะขาดหายไปส่วนหนึ่งเเต่เชื่อว่ารัฐบาลจะเป็นผู้ชดเชยเงินในส่วนที่หายไป ขณะเดียวกันการลดเงินนำสมทบในครั้งนี้น่าจะเป็นการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันกองทุนประกันสังคมจำนวนเงินลงทุนประมาณ 567,906 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนในการลงทุนได้เเก่ ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน เงินฝากธนาคาร และหุ้นกู้เอกชน 477,694 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 84 ของเงินลงทุน และลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ได้แก่ ตราสารหนี้อื่นๆ หน่วยลงทุน และหุ้นสามัญ 90,212 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 16 ของเงินลงทุน
โดยในปีพ.ศ. 2551 ที่ผ่านมา กองทุนประกันสังคมมีรายรับจากการลงทุนจำนวน 24,475 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนซึ่งกองทุนมีรายรับจำนวน 21,109 ล้านบาท โดยได้รับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเท่ากับร้อยละ 0.36 ต่อปี โดยคิดราคาหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเฉพาะหลักทรัพย์ที่มีไว้เผื่อขายและเพื่อค้า (มาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 40) และร้อยละ 9.40 ต่อปี โดยคิดราคาหลักทรัพย์ตามราคาตลาดทั้งหมด (มาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 42)
สำหรับบลจ.ที่ได้รับการคัดเลือกให้ดูเเลการบริหารกองทุนของประกันสังคม ประกอบด้วย บลจ. กสิกรไทย บลจ.วรรณ บลจ. ธนชาต บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบลจ.ทิสโก้
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางบลจ.ได้รับเลือกจากสำนักงานประกันสังคม หรือ สปส.ให้เข้ามาบริหารกองทุนของประกันสังคมจำนวนเงิน 6,000 ล้านบาท ซึ่งมีกรอบระยะเวลาในการบริหารกองทุนประกันสังคมประมาณ 5 ปี โดยเราคาดว่าเหตุผลที่บลจ.กรุงไทยได้รับการคัดเลือกให้เข้ามาบริหารกองทุน น่าจะมาจากบริษัทมีระบบการบริหารจัดการกองทุนรวมที่ดี ทั้งการบริหารความเสี่ยง ระบบการปฏิบัติงาน การทำรายงานการลงทุนในกับ สปส. รวมถึงการได้รับรางวัลการันตีจาก ลลิปเปอร์ อีกด้วยซึ่งตรงนี้อาจจะได้รับการพิจาณาเป็นพิเศษ
สำหรับการบริหารกองทุนนั้น ทางสำนักงานประกันสังคมจะเป็นผู้กำหนดสัดส่วนในการลงทุนว่า ทางบลจ.สามารถลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทใดได้บ้าง พร้อมกับกำหนดว่า บลจ.สามารถลงทุนในตราสารหนี้ เเละตราสารทุนได้ไม่เกินสัดส่วนที่เท่าไร โดยเราก็ต้องบริหารตามกรอบที่สปส.วางไว้
ในส่วนของผลตอบเเทนนั้น ก็คงเป็นตามตลาดเเละทิศทางเศรษฐกิจ ซึ่งเเน่นอนว่าต้องเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยเเละให้ผลตอบเเทนที่ดี ในขณะเดียวกันทางประกันสังคมได้กำหนดเกณฑ์มาตรฐานของกองทุนไว้ ซึ่งเราต้องบริหารกองทุนไม่ให้ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้เพื่อเป็นตัววัดความสามารถในการบริหารกองทุน
"การบริหารพอร์ตของกองทุนประกันสังคมนั้นต้องคำนึงถึงความเสี่ยง ซึ่งทางสปส.เองก็กำหนดการลงทุนมาไว้ ว่าต้องไม่ลงทุนอะไรที่เสี่ยงมากเกิน ซึ่งทางประกันสังคมก็กำหนดเรื่องเกณฑ์มาตรฐานของกองทุนไว้ด้วยว่าเราจะต้องบริหารไม่ให้ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน" นายสมชัยกล่าว
ในส่วนของมติของคณะกรรมการสปส.เรื่องปรับลดเงินสมทบเข้ากองทุนทั้งฝ่ายนายจ้างเเละลูกจ้างจากร้อยละ 2 จากเดิมร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 3นั้น อาจไม่ส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินจำนวนเงิน 6,000 พันล้านบาท ที่บลจ.กรุงไทยไบริหารเนื่องจากเงินดังกล่าวเป็นเงินจาก 5 บลจ.ที่เคยบริหารไว้ก่อน
นายสมชัย กล่าวอีกว่า การลดจำนวนเงินสมทบของนายจ้างเเละลูกจ้างนั้นจะขาดหายไปส่วนหนึ่งเเต่เชื่อว่ารัฐบาลจะเป็นผู้ชดเชยเงินในส่วนที่หายไป ขณะเดียวกันการลดเงินนำสมทบในครั้งนี้น่าจะเป็นการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันกองทุนประกันสังคมจำนวนเงินลงทุนประมาณ 567,906 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนในการลงทุนได้เเก่ ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน เงินฝากธนาคาร และหุ้นกู้เอกชน 477,694 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 84 ของเงินลงทุน และลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ได้แก่ ตราสารหนี้อื่นๆ หน่วยลงทุน และหุ้นสามัญ 90,212 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 16 ของเงินลงทุน
โดยในปีพ.ศ. 2551 ที่ผ่านมา กองทุนประกันสังคมมีรายรับจากการลงทุนจำนวน 24,475 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนซึ่งกองทุนมีรายรับจำนวน 21,109 ล้านบาท โดยได้รับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเท่ากับร้อยละ 0.36 ต่อปี โดยคิดราคาหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเฉพาะหลักทรัพย์ที่มีไว้เผื่อขายและเพื่อค้า (มาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 40) และร้อยละ 9.40 ต่อปี โดยคิดราคาหลักทรัพย์ตามราคาตลาดทั้งหมด (มาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 42)
สำหรับบลจ.ที่ได้รับการคัดเลือกให้ดูเเลการบริหารกองทุนของประกันสังคม ประกอบด้วย บลจ. กสิกรไทย บลจ.วรรณ บลจ. ธนชาต บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบลจ.ทิสโก้
