บลจ.ธนชาต แก้ไขหลักเกณฑ์เพิ่มอีก 5 กองทุน ปลดล็อกกองที่มีมูลค่าต่ำกว่า 50 ล้านบาทให้สามารถดำเนินงานต่อไปได้ ทั้งกองทุนตราสารหนี้ ตราสารทุน และมันนีมาร์เกต ส่วน "ธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 4 -ธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 6" จ่ายผลตอบแทน0.9810% และ 1.0849% จากเงินลงทุนตามลำดับแล้ว
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้แก้ไขรายละเอียดโครงการกองทุนรวมภายใต้การจัดการเพื่อให้สอดคล้องตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ สข/น. 32/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน โดยบริษัท ได้ยกเลิกเหตุของการเลิกกองทุนรวมเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาท เป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน หรือ 30 ล้านบาทในวัน ทำการใด และกำหนดเกณฑ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการในกรณีที่กองทุนรวมมีมูลค่าลดลงน้อยกว่า 50 ล้านบาท โดยจะคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน เพื่อให้สอดคล้องตามประการศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่อ้างถึงด้วย
ทั้งนี้ รายชื่อกองทุนที่แก้ไขซึ่งการแก้ไขรายละเอียดโครงการกองทุนดังกล่าวได้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 21 มกราคมโดยกองทุนที่บริษัทจะทำการแก้ไขมีด้วยกัน 5 กองทุน ประกอบด้วย 1. กองทุนเปิดเจริญทรัพย์ปันผล (CSD) 2. กองทุนเปิดออมสินพัฒนาภูมิภาค (OSPD) 3. กองทุนเปิดกองทุนทุนเพิ่มทวี (N-SET) 4. กองทุนเปิดเปิดธนสาร (TSARN) และ5. กองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น ๔ (TGOV4) ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ทยอยแก้ไขกองทุนไปแล้ว 37 กองทุน
ขณะเดียวกันกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 4 (T-FixFIF4) และธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 (T-FixFIF6) ได้ทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ (Auto Redemption) ครั้งที่ 4 ประจำงวดวันที่ 16 เมษายน 2552 ที่ผ่านมา โดยจ่ายผลตอบแทนเท่ากับ 0.9810% และ 1.0849% จากเงินลงทุนตามลำดับ
โดยกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 4 (T-FixFIF4) ณ วันที่ 16 เมษายน 2552 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 544.66 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.60 บาทต่อหน่วย ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 10.53% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 1.27% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 19.64% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 8.37% และผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 6.20% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 7.27% ส่วนผลตอบแทนก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา ไตรมาส 3 ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ -2.23% และไตรมาส 4 ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 20.31%
ส่วนกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 (T-FixFIF6) ณ วันที่ 16 เมษายน 2552 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,400.87 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.58 บาทต่อหน่วย ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -4.55% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 9.09% และผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดต้งกองทุนอยู่ที่ 6.54% และก่อนหน้านี้กองทุนดังกล่าวได้ให้ผลตอบแทนในช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา ไตรมาส 3 ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 0.18% และไตรมาส 4 ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 23.26% ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะใช้เกณฑ์มาตรฐานเปรียบเทียบอันเดียวกันกับกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 4
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้แก้ไขรายละเอียดโครงการกองทุนรวมภายใต้การจัดการเพื่อให้สอดคล้องตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ สข/น. 32/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน โดยบริษัท ได้ยกเลิกเหตุของการเลิกกองทุนรวมเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาท เป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน หรือ 30 ล้านบาทในวัน ทำการใด และกำหนดเกณฑ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการในกรณีที่กองทุนรวมมีมูลค่าลดลงน้อยกว่า 50 ล้านบาท โดยจะคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน เพื่อให้สอดคล้องตามประการศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่อ้างถึงด้วย
ทั้งนี้ รายชื่อกองทุนที่แก้ไขซึ่งการแก้ไขรายละเอียดโครงการกองทุนดังกล่าวได้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 21 มกราคมโดยกองทุนที่บริษัทจะทำการแก้ไขมีด้วยกัน 5 กองทุน ประกอบด้วย 1. กองทุนเปิดเจริญทรัพย์ปันผล (CSD) 2. กองทุนเปิดออมสินพัฒนาภูมิภาค (OSPD) 3. กองทุนเปิดกองทุนทุนเพิ่มทวี (N-SET) 4. กองทุนเปิดเปิดธนสาร (TSARN) และ5. กองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น ๔ (TGOV4) ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ทยอยแก้ไขกองทุนไปแล้ว 37 กองทุน
ขณะเดียวกันกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 4 (T-FixFIF4) และธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 (T-FixFIF6) ได้ทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ (Auto Redemption) ครั้งที่ 4 ประจำงวดวันที่ 16 เมษายน 2552 ที่ผ่านมา โดยจ่ายผลตอบแทนเท่ากับ 0.9810% และ 1.0849% จากเงินลงทุนตามลำดับ
โดยกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 4 (T-FixFIF4) ณ วันที่ 16 เมษายน 2552 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 544.66 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.60 บาทต่อหน่วย ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 10.53% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 1.27% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 19.64% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 8.37% และผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 6.20% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 7.27% ส่วนผลตอบแทนก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา ไตรมาส 3 ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ -2.23% และไตรมาส 4 ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 20.31%
ส่วนกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 (T-FixFIF6) ณ วันที่ 16 เมษายน 2552 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,400.87 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.58 บาทต่อหน่วย ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -4.55% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 9.09% และผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดต้งกองทุนอยู่ที่ 6.54% และก่อนหน้านี้กองทุนดังกล่าวได้ให้ผลตอบแทนในช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา ไตรมาส 3 ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 0.18% และไตรมาส 4 ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 23.26% ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะใช้เกณฑ์มาตรฐานเปรียบเทียบอันเดียวกันกับกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 4