ASTVผู้จัดการรายวัน-บลจ.พรีมาเวสท์ เตรียมเปิดขายกองน้ำมันหลังสงกรานต์ มั่นใจราคาปรับขึ้นมากกว่าลง เหตุในช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอยู่ในระดับต่ำมากแล้ว ด้าน"ศรีเนตร"พอใจยอดขายกองทุนไตรมาส 1 หลังนักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดีเกือบทุกกองทุน แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะโดนปัญหา TFSC เล่นงาน ระบุการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะทำให้การบริโภคน้ำมันเพิ่มขึ้นได้โดยเฉพาะประเทศจีน
นางสาวศรีเนตร ฤทธิรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า การเสนอขายกองทุนของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทเปิดขายกองทุนไปทั้งสิ้น 4-5 กองทุน ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจะมีปัญหากับเรื่องของการลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัท TFSC ก็ตาม แต่ก็ยังให้ความเชื่อใจในการบริหารงานของบริษัทอยู่
ส่วนแผนการออกทุนในไตรมาส 2 ของปีนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะออกกองทุนปิดก่อนประมาณ 2-3 กองทุน หลังจากนั้นจึงจะให้มาออกกองในรูปแบบปิดอีกครั้ง โดยจะต้องพิจารณาตามสถานการณ์ก่อนว่ากองทุนประเภทไหนถึงจะเหมาะสม โดยกองทุนแรกที่คาดว่าจะนำเสนอขายแก่นักลงทุนในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์หรือในเดือนพฤษภาคมน่าจะเป็นกองทุนที่ลงทุนในน้ำมัน เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ซึ่งน่าจะมีโอกาสทำกำไรในส่วนขาขึ้นมากกว่าที่จะมีการปรับตัวลดลงอีก
สำหรับกองทุนน้ำมันที่จะออกจะเป็นกองทุนรวมต่างประเทศในลักษณะ FEDER FUND ที่จะนำเงินเข้าไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศที่มีนโยบายการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันที่ลงทุนมีการปรับตัวตามราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้เคียงกันมากที่สุด
"ตอนนี้เชื่อว่าน้ำมันเป็นอะไรที่น่าลงทุน ราคาตอนนี้มันต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งมันน่าจะอยู่ที่ประมาณ 55-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้หากเข้าลงทุนในช่วงนี้น่าจะมีอัพไซด์มากว่าที่จะปรับตัวลดลง"นางสาวศรีเนตรกล่าว
นางสาวศรีเนตร กล่าวอีกว่า การลงทุนในกองทุนน้ำมันถือเป็นโอกาสที่ดีหลังจากนี้ เพราะน้ำมันนับเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกที่สำคัญ และเชื่อว่าหากเศรษฐกิจมีสัญญาณการฟื้นตัวในปี 2010 จริงการบริโภคน้ำมันน่าจะเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยปริมาณการบริโภคของจีนและอินเดียที่ผ่านมานับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศจีนที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ก่อนประเทศอื่นก็น่าจะเป็นตัวแปรให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับกองทุนตราสารหนี้ที่จ่ายผลตอบแทนตามการปรับตัวของราคาน้ำมัน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ บริษัทคาดว่าน่าจะยังไม่มีการนำออกมาเสนอขายในช่วงนี้ เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวขึ้นมากว่าลง และกองทุนประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมีการทำสัญญาทั้ง 2 ด้านเหมือนการซื้อสัญญาป้องกันความเสี่ยงแต่ตอนนี้มุมมองของบริษัทคาดว่าราคาน้ำมันน่าจะปรับขึ้นมากกว่าลงทำให้ตราสารหนี้ประเภทนี้ไม่น่าสนใจมากนัก
สำหรับกองทุนที่บลจ.พรีมาเวสท์วางแผนจะนำเสนอให้กับนักลงทุนในปีนี้ จะทยอยเปิดขายเดือนละ 1 กองทุนรวมทั้งสิ้น 12 กองทุน ประกอบด้วยกองทุนตราสารหนี้ ที่ลงทุนทั้งในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชนในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) และกองทุนต่างประเทศที่จะลงทุนในดัชนีอีทีเอฟของสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทใดประเภทหนึ่ง ส่วนกองทุนหุ้นในประเทศที่อาจจะนำกลับมาปัดฝุ่นทำการตลาดอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นปรับลดลงค่อนข้างมาก
นางสาวศรีเนตร ฤทธิรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า การเสนอขายกองทุนของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทเปิดขายกองทุนไปทั้งสิ้น 4-5 กองทุน ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจะมีปัญหากับเรื่องของการลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัท TFSC ก็ตาม แต่ก็ยังให้ความเชื่อใจในการบริหารงานของบริษัทอยู่
ส่วนแผนการออกทุนในไตรมาส 2 ของปีนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะออกกองทุนปิดก่อนประมาณ 2-3 กองทุน หลังจากนั้นจึงจะให้มาออกกองในรูปแบบปิดอีกครั้ง โดยจะต้องพิจารณาตามสถานการณ์ก่อนว่ากองทุนประเภทไหนถึงจะเหมาะสม โดยกองทุนแรกที่คาดว่าจะนำเสนอขายแก่นักลงทุนในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์หรือในเดือนพฤษภาคมน่าจะเป็นกองทุนที่ลงทุนในน้ำมัน เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ซึ่งน่าจะมีโอกาสทำกำไรในส่วนขาขึ้นมากกว่าที่จะมีการปรับตัวลดลงอีก
สำหรับกองทุนน้ำมันที่จะออกจะเป็นกองทุนรวมต่างประเทศในลักษณะ FEDER FUND ที่จะนำเงินเข้าไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศที่มีนโยบายการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันที่ลงทุนมีการปรับตัวตามราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้เคียงกันมากที่สุด
"ตอนนี้เชื่อว่าน้ำมันเป็นอะไรที่น่าลงทุน ราคาตอนนี้มันต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งมันน่าจะอยู่ที่ประมาณ 55-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้หากเข้าลงทุนในช่วงนี้น่าจะมีอัพไซด์มากว่าที่จะปรับตัวลดลง"นางสาวศรีเนตรกล่าว
นางสาวศรีเนตร กล่าวอีกว่า การลงทุนในกองทุนน้ำมันถือเป็นโอกาสที่ดีหลังจากนี้ เพราะน้ำมันนับเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกที่สำคัญ และเชื่อว่าหากเศรษฐกิจมีสัญญาณการฟื้นตัวในปี 2010 จริงการบริโภคน้ำมันน่าจะเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยปริมาณการบริโภคของจีนและอินเดียที่ผ่านมานับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศจีนที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ก่อนประเทศอื่นก็น่าจะเป็นตัวแปรให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับกองทุนตราสารหนี้ที่จ่ายผลตอบแทนตามการปรับตัวของราคาน้ำมัน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ บริษัทคาดว่าน่าจะยังไม่มีการนำออกมาเสนอขายในช่วงนี้ เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวขึ้นมากว่าลง และกองทุนประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมีการทำสัญญาทั้ง 2 ด้านเหมือนการซื้อสัญญาป้องกันความเสี่ยงแต่ตอนนี้มุมมองของบริษัทคาดว่าราคาน้ำมันน่าจะปรับขึ้นมากกว่าลงทำให้ตราสารหนี้ประเภทนี้ไม่น่าสนใจมากนัก
สำหรับกองทุนที่บลจ.พรีมาเวสท์วางแผนจะนำเสนอให้กับนักลงทุนในปีนี้ จะทยอยเปิดขายเดือนละ 1 กองทุนรวมทั้งสิ้น 12 กองทุน ประกอบด้วยกองทุนตราสารหนี้ ที่ลงทุนทั้งในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชนในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) และกองทุนต่างประเทศที่จะลงทุนในดัชนีอีทีเอฟของสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทใดประเภทหนึ่ง ส่วนกองทุนหุ้นในประเทศที่อาจจะนำกลับมาปัดฝุ่นทำการตลาดอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นปรับลดลงค่อนข้างมาก