บลจ.ไอเอ็นจี ส่งกองทุนตราสารหนี้ระดมทุนต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดขาย "ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M3" เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ระยะสั้น 3 เดือน ชูผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 3.55% เสนอขาย ถึง 27 ต.ค. นี้
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด - กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น 3 เดือน 6 เดือน หรือซีรี่ส์ M ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภายในประเทศ โดยบริษัทสามารถระดมทุนและได้รับผลตอบรับจากนักลงทุนได้เป็นอย่างดี จึงมีการเปิดขายหน่วยลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเกือบทุกสัปดาห์ ติดต่อกันไปจนถึงสิ้นปี 2551 ทั้งนี้ บริษัทได้มีทีมงานหรือบุคลากรที่เข้าดูแลในเรื่องตราสารหนี้ระยะสั้นโดยเฉพาะเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด บริษัทได้มีการเปิดขายหน่วยลงทุนของ"ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M3" (ING THAI MM 3M3 Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) มีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 20-27 ตุลาคม 2551 โดยบริษัทประมาณการณ์ว่ากองทุนดังกล่าวน่าจะสามารถให้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 3.55% ต่อปี โดยคาดว่าจะสามารถเรียกเม็ดเงินได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท
สำหรับ กองทุนเปิด ING THAI MM 3M3 Fund เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐบาลรัฐวิสาหกิจ และ/หรือภาคเอกชน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตราสารหนี้ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือ ค้ำประกันการจ่ายเงินโดยสถาบันการเงิน รวมทั้ง เงินฝาก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ทั้งนี้ ตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุน จะมีอายุคงเหลือประมาณ 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ลงทุน ในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ โดยกองทุนจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 3 เดือน อีกทั้งจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ลงทุนในตราสารดังกล่าว เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 3 เดือน
ส่วนเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นที่ไม่ขัดต่อประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องนอกจากนี้ กองทุนอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedging)และ/หรืออาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาของตราสาร โดยกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) หรือ Credit Linked Note
นายจุมพล กล่าวอีกว่า ในส่วนของ กองทุนเปิด" ไอเอ็นจี ไทย เทรเชอรี" (ING Thai Treasury Fund) ซึ่งได้ปิดเสนอขายหน่วยลงทุนในวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา สามารถระดมทุนได้ 750 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการคาดการณ์ว่าจะสามารถเรียกเม็ดเงินจากนักลงทุนได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการระดมทุนที่น้อยกว่าที่บริษัท คาดการณ์เพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นเป็นหลัก อาทิ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล ฯลฯ ที่มีความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง โดยมีมูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากความผันผวนของตลาดหลักทรัพย์ ทำให้นักลงทุนเป็นจำนวนมากหันมาสนใจการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ที่มีความเสี่ยงต่ำ และสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนได้
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด - กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น 3 เดือน 6 เดือน หรือซีรี่ส์ M ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภายในประเทศ โดยบริษัทสามารถระดมทุนและได้รับผลตอบรับจากนักลงทุนได้เป็นอย่างดี จึงมีการเปิดขายหน่วยลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเกือบทุกสัปดาห์ ติดต่อกันไปจนถึงสิ้นปี 2551 ทั้งนี้ บริษัทได้มีทีมงานหรือบุคลากรที่เข้าดูแลในเรื่องตราสารหนี้ระยะสั้นโดยเฉพาะเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด บริษัทได้มีการเปิดขายหน่วยลงทุนของ"ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M3" (ING THAI MM 3M3 Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) มีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 20-27 ตุลาคม 2551 โดยบริษัทประมาณการณ์ว่ากองทุนดังกล่าวน่าจะสามารถให้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 3.55% ต่อปี โดยคาดว่าจะสามารถเรียกเม็ดเงินได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท
สำหรับ กองทุนเปิด ING THAI MM 3M3 Fund เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐบาลรัฐวิสาหกิจ และ/หรือภาคเอกชน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตราสารหนี้ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือ ค้ำประกันการจ่ายเงินโดยสถาบันการเงิน รวมทั้ง เงินฝาก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ทั้งนี้ ตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุน จะมีอายุคงเหลือประมาณ 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ลงทุน ในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ โดยกองทุนจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 3 เดือน อีกทั้งจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ลงทุนในตราสารดังกล่าว เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 3 เดือน
ส่วนเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นที่ไม่ขัดต่อประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องนอกจากนี้ กองทุนอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedging)และ/หรืออาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาของตราสาร โดยกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) หรือ Credit Linked Note
นายจุมพล กล่าวอีกว่า ในส่วนของ กองทุนเปิด" ไอเอ็นจี ไทย เทรเชอรี" (ING Thai Treasury Fund) ซึ่งได้ปิดเสนอขายหน่วยลงทุนในวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา สามารถระดมทุนได้ 750 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการคาดการณ์ว่าจะสามารถเรียกเม็ดเงินจากนักลงทุนได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการระดมทุนที่น้อยกว่าที่บริษัท คาดการณ์เพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นเป็นหลัก อาทิ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล ฯลฯ ที่มีความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง โดยมีมูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากความผันผวนของตลาดหลักทรัพย์ ทำให้นักลงทุนเป็นจำนวนมากหันมาสนใจการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ที่มีความเสี่ยงต่ำ และสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนได้
