บลจ.ไอเอ็นจี เตรียมรับทรัพย์เข้าเอยูเอ็มเพิ่มอีก 2,000 กว่าล้านบาท จาก 2 กองทุนใหม่ "ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M2" เน้นลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ ซึ่งตั้งโต๊ะขายตั้งแต่วันนี้ถึง 20 ต.ค ชูผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 3.55% และ" ไอเอ็นจี ไทย เทรเชอรี"ที่ใกล้ปิดรับจอง 16 ต.ค.นี้ ล่าสุดกองทุน "ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M1" ฟันยอดระดมทุนหลังปิดขาย 600 ล้านบาท ตามแผนการผุดกองทุนบอนด์ระยะสั้นตอบสนองความต้องการนักลงทุน
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด - กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถระดมทุนจากการเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนใหม่ 2 โครงการรวมกันได้มากกว่า 2,000 กว่าล้านบาท ซึ่งจะมาจากการเปิดขาย กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M2 (ING THAI MM 3M2 Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) มีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 13-20 ตุลาคม 2551 โดยบริษัทประมาณการณ์ว่ากองทุนดังกล่าวน่าจะสามารถให้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 3.55% ต่อปี โดยคาดว่าจะสามารถเรียกเม็ดเงินได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยอดเงินอีกส่วนหนึ่งจากมาจากกองทุนเปิด" ไอเอ็นจี ไทย เทรเชอรี" (ING Thai Treasury Fund) ซึ่งเปิดขายมาตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านและจะปิดรับซื้อหน่วยลงทุนในวันที่ 16ต.ค.นี้ โดยคาดว่าจะได้เงินจากลูกค้ามากกว่า 1,000 ล้านบาท
สำหรับ กองทุนเปิด ING THAI MM 3M2 Fund เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐบาลรัฐวิสาหกิจ และ/หรือภาคเอกชน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตราสารหนี้ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือ ค้ำประกันการจ่ายเงินโดยสถาบันการเงิน รวมทั้ง เงินฝาก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ทั้งนี้ ตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุน จะมีอายุคงเหลือประมาณ 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ลงทุน ในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ โดยกองทุนจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 3 เดือน อีกทั้งจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ลงทุนในตราสารดังกล่าว เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 3 เดือน
ส่วนเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นที่ไม่ขัดต่อประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องนอกจากนี้ กองทุนอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedging)และ/หรืออาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาของตราสาร โดยกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) หรือ Credit Linked Note
ขณะที่ กองทุนเปิด ING Thai Treasury Fund มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นเป็นหลัก อาทิ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล ฯลฯ ที่มีความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง โดยมีมูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 6-13 ตุลาคมที่ผ่านมา บลจ.ไอเอ็นจี ได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M1 ซึ่งกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) มีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท และคาดว่าจะให้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 3.60% ต่อปี ซึ่งสามารถระดมเม็ดเงินจากนักลงทุนได้ประมาณ 600 ล้านบาท
นาย จุมพล กล่าวอีกว่า เนื่องจากปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนมองหาการลงทุนระยะสั้นๆแทนการลงทุนในระยะยาว ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดให้มีการออกกองทุนระยะสั้น 3-6 เดือนทุกสัปดาห์ไปจนถึงสิ้นปีนี้ เน้นออกเป็นซีรี่ย์ โดยหลังจากกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M2 ก็จะมี 3M3 ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน
ทั้งนี้ จากภาวะความผันผวนของตลาดในปัจจุบันนี้ ทำให้บริษัทมองหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการลงทุน ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐบาลและเอกชนที่มีความเสี่ยงต่ำให้แก่นักลงทุน
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด - กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถระดมทุนจากการเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนใหม่ 2 โครงการรวมกันได้มากกว่า 2,000 กว่าล้านบาท ซึ่งจะมาจากการเปิดขาย กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M2 (ING THAI MM 3M2 Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) มีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 13-20 ตุลาคม 2551 โดยบริษัทประมาณการณ์ว่ากองทุนดังกล่าวน่าจะสามารถให้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 3.55% ต่อปี โดยคาดว่าจะสามารถเรียกเม็ดเงินได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยอดเงินอีกส่วนหนึ่งจากมาจากกองทุนเปิด" ไอเอ็นจี ไทย เทรเชอรี" (ING Thai Treasury Fund) ซึ่งเปิดขายมาตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านและจะปิดรับซื้อหน่วยลงทุนในวันที่ 16ต.ค.นี้ โดยคาดว่าจะได้เงินจากลูกค้ามากกว่า 1,000 ล้านบาท
สำหรับ กองทุนเปิด ING THAI MM 3M2 Fund เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐบาลรัฐวิสาหกิจ และ/หรือภาคเอกชน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตราสารหนี้ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือ ค้ำประกันการจ่ายเงินโดยสถาบันการเงิน รวมทั้ง เงินฝาก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ทั้งนี้ ตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุน จะมีอายุคงเหลือประมาณ 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ลงทุน ในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ โดยกองทุนจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 3 เดือน อีกทั้งจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ลงทุนในตราสารดังกล่าว เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 3 เดือน
ส่วนเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นที่ไม่ขัดต่อประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องนอกจากนี้ กองทุนอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedging)และ/หรืออาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาของตราสาร โดยกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) หรือ Credit Linked Note
ขณะที่ กองทุนเปิด ING Thai Treasury Fund มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นเป็นหลัก อาทิ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล ฯลฯ ที่มีความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง โดยมีมูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 6-13 ตุลาคมที่ผ่านมา บลจ.ไอเอ็นจี ได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M1 ซึ่งกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) มีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท และคาดว่าจะให้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 3.60% ต่อปี ซึ่งสามารถระดมเม็ดเงินจากนักลงทุนได้ประมาณ 600 ล้านบาท
นาย จุมพล กล่าวอีกว่า เนื่องจากปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนมองหาการลงทุนระยะสั้นๆแทนการลงทุนในระยะยาว ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดให้มีการออกกองทุนระยะสั้น 3-6 เดือนทุกสัปดาห์ไปจนถึงสิ้นปีนี้ เน้นออกเป็นซีรี่ย์ โดยหลังจากกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M2 ก็จะมี 3M3 ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน
ทั้งนี้ จากภาวะความผันผวนของตลาดในปัจจุบันนี้ ทำให้บริษัทมองหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการลงทุน ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐบาลและเอกชนที่มีความเสี่ยงต่ำให้แก่นักลงทุน