ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับหน่วยลงทุนกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราเข้าจดทะเบียนซื้อขายในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 13 ต.ค.นี้ ใช้ชื่อ "CTARAF" ขณะที่โรงแรมเซ็นทรัลพลาซาถือหน่วยสุงสุด 25%
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่าคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งให้รับหน่วยลงทุนของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเห็นควรกำหนดให้หน่วยลงทุนของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา จำนวน 320,000,000 หน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 10 บาท รวม 3,200,000,000 บาท เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2551
เป็นต้นไป โดยจัดอยู่ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "CTARAF"
สำหรับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนและเป็นกองทุนรวมที่ระบุเฉพาะเจาะจง โดยมีการกำหนดอสังหาริมทรัพย์ที่จะซื้อหรือเช่าเป็นการแน่นอนในโครงการ แบบไม่กำหนดอายุโครงการ และมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมเงินทุนจากนักลงทุนทั่วไป ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งกองทุนรวมจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปซื้อ เช่า และ/หรือเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ โดยกองทุนจะรับโอนกรรมสิทธิ์ และ/หรือ สิทธิการเช่า และ/หรือสิทธิการเช่าช่วง อสังหาริมทรัพย์ และจัดหาผลประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว
โดยการให้เช่า ให้เช่าช่วง โอน และ/หรือจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่กองทุนรวมได้ลงทุนไว้หรือมีไว้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการนำอสังหาริมทรัพย์ออกให้เช่าหรือเช่าช่วงเพื่อให้ผู้ประกอบการนำอสังหาริมทรัพย์ออกหาประโยชน์ในลักษณะโรงแรม ตลอดจนทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมถึงดำเนินการก่อสร้าง และ/หรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยรับโอนใบอนุญาตก่อสร้าง และ/หรือดำเนินการขอหรือรับโอนใบอนุญาตอื่นๆ เช่น ใบอนุญาตเปิดโรงแรม (ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้ดำเนินการดังกล่าวได้) และ/หรือดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องและจำเป็นเพื่อประโยชน์ของอสังหาริมทรัพย์ และเพื่อมุ่งก่อให้เกิดรายได้และผลตอบแทนแก่กองทุนรวมและผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมรวมถึงการลงทุนในทรัพย์สินอื่น และ/หรือหลักทรัพย์อื่น และ/หรือการหาดอกผลอื่น โดยวิธีอื่นใดตามกฎหมายหลักทรัพย์และ/หรือกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกำหนด
ทั้งนี้นโยบายการลงทุนการลงทุนครั้งแรกนั้น กองทุนจะเข้าไปลงทุนใน 1.สิทธิการเช่าที่ดินจากบริษัท เซ็นทรัลสมุยบีชรีสอร์ท จำกัด เป็นระยะเวลา 30 ปี , 2.สิทธิการเช่าสิ่งปลูกสร้างซึ่งได้แก่อาคารโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท สมุย รวมถึงระบบสาธารณูปโภคจากบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลา 30 ปี และ 3.กรรมสิทธิ์ในเฟอร์นิเจอร์พร้อมทั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินธุรกิจโรงแรม
รายงานข่าวระบุต่อว่า สำหรับจำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนและการกระจายการถือหน่วยลงทุน ณ วันที่ 23 กันยายน 2551 ของ CTARAF ปรากฎดังต่อไปนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุนเกินกว่า 5/1000 ของหน่วยลงทุนทั้งหมด มีจำนวน 84,827,800 หน่วย คิดเป็น 26.51% ของหน่วยลงทุนที่ออกจำหน่าย , ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เกินกว่า 5/1000 ของหน่วยลงทุนทั้งหมด มีจำนวน 235,172,200 หน่วย คิดเป็น73.49% ของหน่วยลงทุนที่ออกจำหน่าย
ขณะเดียวกันผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ ณ วันที่ 23 กันยายน 2551 มีดังต่อไปนี้ 1.บริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุนจำนวน 80,000,100 หน่วย คิดเป็น 25.00% , 2.นายชวลิต ตวงสิทธิสมบัติ ถือหน่วยลงทุนจำนวน 2,827,700 หน่วย คิดเป็น 0.88% ,3.นางกุลวดี ตั้งคารวคุณ ถือหน่วยลงทุนจำนวน 2,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.63% ,4.ร.ท.ล้วน ปางสุข ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31%
ส่วนอันดับ 5.นายบุญชัย องค์พิพัฒนกุล ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31% ,6. นางมัทนา ตรัยวรกุล ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31% ,7.นางอาภรณ์ ภูมินิพัทธ์ ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31% , 8.นายธีรชัย ภูมินิพัทธ์ ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31% ,9.นายสุนทร ชลสายพันธ์ ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31% และ10.นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31%
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่าคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งให้รับหน่วยลงทุนของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเห็นควรกำหนดให้หน่วยลงทุนของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา จำนวน 320,000,000 หน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 10 บาท รวม 3,200,000,000 บาท เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2551
เป็นต้นไป โดยจัดอยู่ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "CTARAF"
สำหรับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนและเป็นกองทุนรวมที่ระบุเฉพาะเจาะจง โดยมีการกำหนดอสังหาริมทรัพย์ที่จะซื้อหรือเช่าเป็นการแน่นอนในโครงการ แบบไม่กำหนดอายุโครงการ และมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมเงินทุนจากนักลงทุนทั่วไป ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งกองทุนรวมจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปซื้อ เช่า และ/หรือเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ โดยกองทุนจะรับโอนกรรมสิทธิ์ และ/หรือ สิทธิการเช่า และ/หรือสิทธิการเช่าช่วง อสังหาริมทรัพย์ และจัดหาผลประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว
โดยการให้เช่า ให้เช่าช่วง โอน และ/หรือจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่กองทุนรวมได้ลงทุนไว้หรือมีไว้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการนำอสังหาริมทรัพย์ออกให้เช่าหรือเช่าช่วงเพื่อให้ผู้ประกอบการนำอสังหาริมทรัพย์ออกหาประโยชน์ในลักษณะโรงแรม ตลอดจนทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมถึงดำเนินการก่อสร้าง และ/หรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยรับโอนใบอนุญาตก่อสร้าง และ/หรือดำเนินการขอหรือรับโอนใบอนุญาตอื่นๆ เช่น ใบอนุญาตเปิดโรงแรม (ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้ดำเนินการดังกล่าวได้) และ/หรือดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องและจำเป็นเพื่อประโยชน์ของอสังหาริมทรัพย์ และเพื่อมุ่งก่อให้เกิดรายได้และผลตอบแทนแก่กองทุนรวมและผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมรวมถึงการลงทุนในทรัพย์สินอื่น และ/หรือหลักทรัพย์อื่น และ/หรือการหาดอกผลอื่น โดยวิธีอื่นใดตามกฎหมายหลักทรัพย์และ/หรือกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกำหนด
ทั้งนี้นโยบายการลงทุนการลงทุนครั้งแรกนั้น กองทุนจะเข้าไปลงทุนใน 1.สิทธิการเช่าที่ดินจากบริษัท เซ็นทรัลสมุยบีชรีสอร์ท จำกัด เป็นระยะเวลา 30 ปี , 2.สิทธิการเช่าสิ่งปลูกสร้างซึ่งได้แก่อาคารโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท สมุย รวมถึงระบบสาธารณูปโภคจากบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลา 30 ปี และ 3.กรรมสิทธิ์ในเฟอร์นิเจอร์พร้อมทั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินธุรกิจโรงแรม
รายงานข่าวระบุต่อว่า สำหรับจำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนและการกระจายการถือหน่วยลงทุน ณ วันที่ 23 กันยายน 2551 ของ CTARAF ปรากฎดังต่อไปนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุนเกินกว่า 5/1000 ของหน่วยลงทุนทั้งหมด มีจำนวน 84,827,800 หน่วย คิดเป็น 26.51% ของหน่วยลงทุนที่ออกจำหน่าย , ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เกินกว่า 5/1000 ของหน่วยลงทุนทั้งหมด มีจำนวน 235,172,200 หน่วย คิดเป็น73.49% ของหน่วยลงทุนที่ออกจำหน่าย
ขณะเดียวกันผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ ณ วันที่ 23 กันยายน 2551 มีดังต่อไปนี้ 1.บริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุนจำนวน 80,000,100 หน่วย คิดเป็น 25.00% , 2.นายชวลิต ตวงสิทธิสมบัติ ถือหน่วยลงทุนจำนวน 2,827,700 หน่วย คิดเป็น 0.88% ,3.นางกุลวดี ตั้งคารวคุณ ถือหน่วยลงทุนจำนวน 2,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.63% ,4.ร.ท.ล้วน ปางสุข ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31%
ส่วนอันดับ 5.นายบุญชัย องค์พิพัฒนกุล ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31% ,6. นางมัทนา ตรัยวรกุล ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31% ,7.นางอาภรณ์ ภูมินิพัทธ์ ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31% , 8.นายธีรชัย ภูมินิพัทธ์ ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31% ,9.นายสุนทร ชลสายพันธ์ ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31% และ10.นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.31%