xs
xsm
sm
md
lg

ราชสีห์ Go Inter

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย บลจ.บีที

วันนี้ขอสวมบทเป็น “ราชสีห์” ฉบับภาษาอังกฤษ ท่านผู้อ่านหลายท่านคงจะมีโอกาสได้ดูการ์ตูนของ Walt Disney เรื่อง “The Lion King” ที่ได้นำออกฉายในโรงภาพยนตร์ ประมาณช่วงปี 2537 ด้วยทุนสร้างประมาณ 79 ล้านเหรียญสหรัฐ และสามารถทำรายได้รวมทั่วโลกถึง 784 ล้านเหรียญ (ไม่นับรวมเทปผีซีดีเถื่อน) พระเอกของเรื่องชื่อ ซิมบ้า (Simba)

ขอปรับพอร์ตโฟลิโอ ตามที่ได้เกริ่นไว้ในสัปดาห์ก่อน เพราะตลาดหุ้นบ้านเราได้ลดลงอย่างมาก รวม 4 วันตั้งแต่วันจันทร์ที่ 26 พ.ค. 51 หรือเพียง 1 วันหลังจากที่ได้ลดน้ำหนักในตราสารทุนลงไปทั้งหมด จากกราฟที่แสดง ดัชนี SET50 ได้แตะกรอบล่างของ Bollinger Band ที่ 588 ในระหว่างวันและมีการดีดกลับอย่างมีนัยสำคัญแล้วปิดที่ระดับ 597 จึงได้พิจารณาลงทุนเพิ่มน้ำหนักในตราสารทุน 25% ทันทีในวันที่ 29 พ.ค. 51 โดยมี gap ของราคาจากการขายในครั้งก่อนถึง 6.09% (ดังกราฟ)

ส่วนสาเหตุที่ราชสีห์จะต้อง Go Inter ก็เพราะว่าแนวโน้มระดับเงินเฟ้อได้ขยับตัวขึ้นมาค่อนข้างสูงไปเกือบทั่วโลก จึงต้องหาสินทรัพย์ (Asset) ที่พอจะให้ผลตอบแทนสูงได้ตามระดับเงินเฟ้อเข้ามาอยู่ในพอร์ตโฟลิโอบ้าง มิฉะนั้นแล้วอัตราผลตอบแทนจาก “หนู” อาจจะไม่สามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อได้ สินทรัพย์ที่หลายท่านคิดถึงก็คือ “ทองคำ” แต่เนื่องจากในบ้านเรายังไม่มีตลาดซื้อ/ขายอย่างเป็นทางการ (ได้ยินว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่กำลังอยู่ในแผนงานของ TFEX) ครั้นจะใช้ราคาทองคำแท่งในประเทศก็ติดตามราคาลำบาก จึงจะขอใช้ราคาทองคำที่เป็น USD ณ กรุงลอนดอน โดยสามารถติดตามราคาได้จาก website www.lmba.org.uk

ทำให้พอร์ตโฟลิโอมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ปัจจัย คือ ราคาทองคำและอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของเรื่อง The Lion King จึงขอเทียบได้กับตัวละครในเรื่องที่มักจะออกมาเป็นคู่ ชื่อว่า “ทีโมน” กับ “พุมบ้า” (Timon & Pumbaa) โดยยึดหลักปรัชญาที่มีชื่อว่า “Hakuna Matata” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า “สบายใจไร้กังวล” ฉะนั้นเงินลงทุนในส่วนที่ผู้ลงทุนจะนำไป Go Inter (ในทุกการลงทุน ไม่เพียงเฉพาะในทองคำ) ท่านจะต้องแน่ใจว่านำออกไปได้อย่างสบายใจไร้กังวล คืออยู่ในสัดส่วนที่รับความเสี่ยงได้

ครั้งนี้จากเงินในส่วนของสภาพคล่องที่เหลืออยู่อีก 35% จึงขอแบ่ง 10% ไปลงทุนในทองคำที่อยู่ในรูปของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้ตัดสินใจลงทุนในวันที่ 29 พ.ค. 51 และให้เสมือนการลงทุนจริงในกองทุน FIF ทั่วไป การสั่งซื้อวันนี้จะได้ราคาในวันรุ่งขึ้น (บางกองทุนมีการซื้อ/ขายเพียงสัปดาห์ละ 1 วัน) จึงขอใช้อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคาร จาก website ของธนาคารแห่งประเทศไทย (www.bot.or.th) ซึ่งประกาศในวันรุ่งขึ้น ที่ 32.444 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ สรอ. และใช้ราคาทองคำ ณ กรุงลอนดอน ช่วงเช้า ในวันรุ่งขึ้น (เทียบเท่าบ่ายในบ้านเรา) ที่ 879.50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ เป็นต้นทุน (ตารางประกอบ)

สำหรับผลตอบแทนในช่วงที่ 8 นี้ ติดลบไป 0.30% เนื่องจากราคาของพันธบัตรขยับตัวลดลงตามอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากภาวะอัตราเงินเฟ้อที่กดดันตลาดตราสารหนี้อยู่ในขณะนี้ พอร์ตโฟลิโอมีผลตอบแทนสะสม เท่ากับ 6.89% โปรดติดตามนิทานเรื่อง “ราชสีห์กับหนู” และ “The Lion King” ได้อีกในตอนต่อ ๆ ไปครับ

บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัว เพื่อเป็นตัวอย่างด้วยการใช้ข้อมูลจริงในการจัดสัดส่วนของพอร์ตโฟลิโอและหาจังหวะในการปรับน้ำหนักในการลงทุน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ แต่อย่างใดทั้งสิ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น