เมื่อสัปดาห์ก่อน น้องแก้มบุ๋ม -พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์ Miss Motor Show 2008 พร้อมด้วยรองทั้ง 4 ได้เข้าเยี่ยมกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ พร้อมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงการได้รับรางวัลในครั้งนี้ว่าเธอมีการจัดสรรเงินรางวัลอย่างไรบ้าง และในอนาคตมีการวางแผนอยากทำธุรกิจอะไรต่อไป
น้องแก้มบุ๋ม เล่าให้เราฟังว่า จากการประกวด Miss Motor Show 2008 ในครั้งนี้ได้รับรางวัลมากมาย โดยเฉพาะเงินสดที่ได้มาเป็นจำนวน 100,000 บาท โดยเงินจำนวนดังกล่าวได้เก็บไว้เป็นทุนสำหรับการศึกษา เพราะขณะนี้กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์ ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
สำหรับการเข้าประกวดครั้งนี้น้องแก้มบุ๋ม บอกว่า ไม่ใช่เป็นการประกวดครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้เคยผ่านการประกวดสาวเปรียวมาแล้ว ส่วนงานนี้คุณแม่เชียร์ให้มาสมัครจึงลองมาประกวดดูและก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
“ดีใจมากที่ได้ตำแหน่งนี้ สำหรับตำแหน่งมิสมอเตอร์โชว์นั้นคิดว่า เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติมากๆ เพราะการคัดเลือกคนที่จะมาทำงานระดับชาติขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ใครจะสามารถมาเป็นได้ นอกจากนี้การมาทำหน้าที่ดังกล่าว เหมือนกับการเป็นประชาสัมพันธ์ให้กับงานมอเตอร์โชว์ และอยากให้คนไทยมาชมงานกันมากขึ้นในครั้งหน้า เพราะมีทั้งรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และรถคลาสสิกหายาก รวมถึงมอเตอร์ไซค์ให้ชม และเลือกซื้อ” แก้มบุ๋ม บอก
ส่วนประสบการณ์ที่ได้จากการประกวดนั้น แก้มบุ๋มบอกว่า คือความรับผิดชอบและความสามัคคี เพราะตลอดเวลาที่เก็บตัวต้องอยู่กับเพื่อนๆตลอดเวลา ทำให้รู้ถึงการวางตัวในสังคมรวมถึงการทำกิจกรรมหลายๆอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ที่สำคัญคือเป็นการฝึกให้ตัวเองมีความรับผิดชอบ เนื่องจากการเป็นมิสมอเตอร์โชว์นั้นต้องมีทั้งความสวยและความสามารถควบคู่กันไป
ปัจจุบันน้องแก้มบุ๋ม นอกจากนี้เป็นมิสมอเตอร์โชว์ ปีล่าสุดแล้ว ยังมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง ““คู่ก๊วนป่วนเมษา” อีกหนึ่งเรื่อง ส่วนในอนาคตภายหลังจากที่หมดหน้าที่ในตำแหน่งมิสมอเตอร์โชว์แล้วนั้น อยากจะไปประกอบอาชีพที่ใฝ่ฝันก็คือ "นางแบบ" แต่ตอนนี้ขอทำหน้าที่มิสมอเตอร์โชว์จนกว่าจะครบ 1 ปี ให้ดีที่สุดก่อน
สำหรับหลักและแนวคิดในการทำงานให้ประสบความสำเร็จนั้น แก้มบุ๋ม บอกว่า เราควรคิดที่จะทำงานในสิ่งที่เราชอบ เพราะเมื่อทำในสิ่งที่ชอบเราจะทำให้เรามีความสุข แต่งานสิ่งนั้นที่ทำต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อนด้วย ต้องรู้จักการวางตัวที่ดี มีสัมมาคารวะให้ถูกกาลเทศะด้วย
ส่วนปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดจากการทำงานหรือเรื่องเรียนก็ตาม จะใช้วิธีด้วยการปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ เพราะถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด เนื่องจากว่าไม่มีใครที่จะหวังดีกับเราเท่ากับคุณพ่อคุณแม่ และเมื่อได้รับคำปรึกษาจากท่านแล้วก็จะนำไปแก้ไขปัญหาต่างๆ
น้องแก้มบุ๋ม ยังเล่าต่ออีกว่า ในส่วนของการออมเงินนั้นเมื่อครั้งที่เป็นเด็กครอบครัวได้มีการปลูกฝังให้หยอดกระปุกออมสิน ซึ่งส่งผลมาจนถึงปัจจุบันจะมีกระปุกออมสินด้วยกัน 2 กระปุก โดยกระปุกแรกจะหยอดสตางค์ที่เหลือจากค่าขนมที่ได้จากการไปเรียนหนังสือ ส่วนเงินที่ได้จากการทำงานจะหยอดใส่ไว้ในกระปุกที่สอง
สำหรับรายได้แรกที่น้องแก้มบุ๋ม สามารถหาได้ด้วยตัวเองนั้น เป็นช่วงตอนอายุ 12 ปี ซึ่งในตอนนั้นได้ไปถ่ายแบบหนังสือ โดยได้ค่าตอบแทนมาจำนวน 1,000 บาท และในตอนนั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก จึงรีบนำเงินจำนวนดังกล่าวไปฝากไว้ที่ธนาคาร
“การออมถือว่าเป็นการวางรากฐานให้กับอนาคตของตัวได้ เพราะเมื่อเรารู้จักเก็บออมแล้ว เชื่อว่าอนาคตจะไม่ลำบากอย่างแน่นอน ดังนั้นเราคงออมซะตั้งแต่วันนี้ไม่ว่าจะเป็นจำนวนที่มากหรือน้อยก็ตามแต่ เพราะในอนาคตเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเราและคนรอบข้าง” แก้มบุ๋มบอก
สุดท้ายแก้มบุ๋ม ฝากบอกว่า ในยุคเศรษฐกิจที่ข้าวของแพงอย่างนี้ อยากให้ทุกคนรู้จักหักห้ามใจอย่างใช้จ่ายกันอย่างฟุ่มเฟือย ควรรู้จักเก็บออมจะดีที่สุด เพราะการออมนั้นจะมีประโยชน์ต่อทุก ๆ คนในอนาคตอย่างแน่นอน
ชื่อ – นามสกุล พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์ หรือ "น้องแก้มบุ๋ม”
วันเดือนปีเกิด 29 พฤศจิกายน 2531
การศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ผลงานปัจจุบัน Miss Motor Show 2008
ภาพยนตร์เรื่อง “คู่ก๊วนป่วนเมษา”
