xs
xsm
sm
md
lg

ธนชาตลดค่าฟีขายเอฟไอเอฟ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ธนชาต ปรับลดค่าธรรมเนียมการขายกองทุนเอฟไอเอฟ 5 กองลงเหลือ 0.50% ของมูลค่าหน่วยลงทุน หวังลดภาระให้ผู้ถือหน่วยที่ต้องการขายออก ช่วงที่การลงทุนทั่วโลกผันผวน ส่วนผลการดำเนินงานพบกองหุ้นพาเหรดติดลบ มีเพียงกองทุนตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก หลังได้อานิสงส์จากทิศทางดอกเบี้ย

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ประกาศลดค่าธรรมเนียมการขาย (ค่าฟี) หน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (กองทุน FIF) ภายใต้การบริหารของบริษัทจำนวน 5 กองทุน ซึ่งประกอบด้วย กองทุนเปิดธนชาตอินฟราสตรัคเจอร์ แอนด์ แน็ชเชอรัล รีซอร์ส ฟันด์ ออฟ ฟันด์ (กองทุน T-INFRA) กองทุนเปิดธนชาตแวยูเอ๊กซ์ยูเอสฟันด์ (กองทุน T-VALUexUS) กองทุนเปิดธนชาตพรีเมียมแบรนดส์ฟันด์ (กองทุน T-PREMIUM BRAND) กองทุนเปิดธนชาตโกลบอล บอนด์ ฟันด์ (กองทุน T-GlobalBond) และกองทุนเปิดธนชาตนิวเอ็นเนอร์จีฟันด์ (กองทุน T-NewEnergy)

โดยการลดค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนกองทุน FIF ดังกล่าว เป็นค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน (front-end fee) ที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งจากเดิมผู้ลงทุนที่ลงทุนตั้งแต่ 10 ล้านบาท คิดในอัตรา 1.00% ของมูลค่าหน่วยลงทุน หรือลงทุนตั้งแต่ 10 ล้านบาท คิดในอัตรา 0.75% ของมูลค่าหน่วยลงทุน เปลี่ยนมาคิดในอัตรา 0.50% ของมูลค่าหน่วยลงทุน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนถึงวันที่ 18 กรกฎาคม 2551

สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนเอฟไอเอฟจำนวน 5 กองทุน พบว่าในช่วงระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา ผลตอบแทนส่วนใหญ่โดยเฉพาะกองทุนหุ้นยังติดลบและอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าดัชนีมาตรฐาน โดยมีกองทุนตราสารหนี้เท่านั้น ที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกได้ และยังเหนือกว่าดัชนีมาตรฐานอีกด้วย

โดยผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดธนชาตพรีเมียมแบรนดส์ฟันด์ ณ วันที่ 4 เมษายน 2551 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -7.73% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตราฐาน (ดัชนี MSCI WCDI-Baht) ที่ให้ผลตอบแทน -7.58% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -13.03% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐาน -22.17% ในขณะที่ผลตอบแทนตั้งแต่วันเริ่มโครงการอยู่ที่ -11.58% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐาน -16.33% โดยปัจจุบันกองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 558.54 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุน 8.8425 บาท

กองทุนเปิดธนชาตอินฟราสตรัคเจอร์ แอนด์ แน็ชเชอรัล รีซอร์ส ฟันด์ ออฟ ฟันด์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -6.69% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตราฐาน (ดัชนี MSCI ACWI) ที่ให้ผลตอบแทน -3.04% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -5.52% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐาน -9.13% ย้อนหลัง 1 ปี 4.04% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐานที่ให้ผลตอบแทน 1.19% ในขณะที่ผลตอบแทนตั้งแต่วันเริ่มโครงการอยู่ที่ 11.04% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐาน 20.78% โดยปัจจุบันกองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,021.53 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุน 10.4451 บาท

กองทุนเปิดธนชาตแวยูเอ๊กซ์ยูเอสฟันด์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -5.11% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตราฐาน (ดัชนี MSCI EAFE Index) ที่ให้ผลตอบแทน -4.04% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -13.17% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐาน -9.28% ในขณะที่ผลตอบแทนตั้งแต่วันเริ่มโครงการอยู่ที่ -9.67% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐาน -5.10% โดยปัจจุบันกองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,203.51 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุน 9.0327 บาท

กองทุนเปิดธนชาตนิวเอ็นเนอร์จีฟันด์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -9.17% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตราฐาน (ดัชนี MSCI Word (net) (Baht)) ที่ให้ผลตอบแทน -14.76% ในขณะที่ผลตอบแทนตั้งแต่วันเริ่มโครงการอยู่ที่ -6.35% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐาน -11.59% โดยปัจจุบันกองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,138.60 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุน 9.3654 บาท

ส่วนกองทุนเปิดธนชาตโกลบอล บอนด์ ฟันด์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.07% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตราฐาน (ดัชนี JP Morgan Global Govt Bond(Baht)) ที่ให้ผลตอบแทน 0.21% ในขณะที่ผลตอบแทนตั้งแต่วันเริ่มโครงการอยู่ที่ 4.65% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐาน 3.80% โดยปัจจุบันกองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,404.97 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุน 10.4651 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น