บลจ.ธนชาต ประกาศจ่ายปันผล “ธนชาติทุนทวี1” ในอัตราหน่วยละ 0.80 บาท ผู้ถือหน่วยเตรียมรับทรัพย์พร้อมกัน 31 มีนาคม นี้
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนเปิดธนชาติทุนทวี1 (TTW1) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติในพิจารณาจ่ายผลตอบแทนกองทุนรวม ครั้งที่ 9/2551 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2551 ให้จ่ายเงินปันผลระหว่างรอบระยะเวลา 7 เดือน สิ้นสุดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 ของกองทุนดังกล่าว ในอัตราหน่วยละ 0.80 บาท ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 20 มีนาคม 2551โดยกำหนดให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 31 มีนาคม 2551
สำหรับผลผลตอบแทนของกองทุน ณ วันที่ 20 มีนาคม 2551 กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.82% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 2.60% และผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -0.13% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.93% ขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 24.54% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 12.00%
ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 31.24% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 14.34% โดยผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 120.32% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 38.00% ส่วนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนอยู่ที่ 801.34 ล้านบาท และมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.19 บาทต่อหน่วย
ขณะที่ สัดส่วนการลงทุนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2551 กองทุนลงทุนในกลุ่มพลังงาน 38.23% กลุ่มธนาคาร 17.83% กลุ่มสื่อสาร 7.79% กลุ่มสื่อสาร 7.79% กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 6.04% กลุ่มขนส่ง 5.15% อื่น ๆ 13.91% และพันธบัตรระฐวิสาหกิจอีก 7.15%
นอกจากนี้ ในส่วนหลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุน 5 อันดับแรก ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ประกอบไปด้วย 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 16.91% 2. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 7.89% 3. บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) 7.22% 4. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 6.41% 5. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) 5.72% นอกจากนี้กองทุนยังเข้าไปลงทุนในธนาคารแห่งประเทศไทย 7.15%
ทั้งนี้กองทุน TTW1 เป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น – เฉพาะเจาะจง ซึ่งจดทะเบียนกองทุนเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2546 ด้วยเงินทุนโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุน ตราสารแห่งหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และตราสารทางการเงินอื่นๆ ที่กฏหมายกำหนดให้ลงทุนได้ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์ของตลาดทุน และตลาดเงินในแต่ละช่วงเวลา โดยขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัทจัดการ ตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ นอกจากนี้กองทุนมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าปีละ 2 ครั้ง เมื่อมีผลกำไรจากการดำเนินงาน
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนเปิดธนชาติทุนทวี1 (TTW1) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติในพิจารณาจ่ายผลตอบแทนกองทุนรวม ครั้งที่ 9/2551 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2551 ให้จ่ายเงินปันผลระหว่างรอบระยะเวลา 7 เดือน สิ้นสุดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 ของกองทุนดังกล่าว ในอัตราหน่วยละ 0.80 บาท ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 20 มีนาคม 2551โดยกำหนดให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 31 มีนาคม 2551
สำหรับผลผลตอบแทนของกองทุน ณ วันที่ 20 มีนาคม 2551 กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.82% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 2.60% และผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -0.13% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.93% ขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 24.54% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 12.00%
ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 31.24% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 14.34% โดยผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 120.32% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 38.00% ส่วนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนอยู่ที่ 801.34 ล้านบาท และมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.19 บาทต่อหน่วย
ขณะที่ สัดส่วนการลงทุนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2551 กองทุนลงทุนในกลุ่มพลังงาน 38.23% กลุ่มธนาคาร 17.83% กลุ่มสื่อสาร 7.79% กลุ่มสื่อสาร 7.79% กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 6.04% กลุ่มขนส่ง 5.15% อื่น ๆ 13.91% และพันธบัตรระฐวิสาหกิจอีก 7.15%
นอกจากนี้ ในส่วนหลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุน 5 อันดับแรก ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ประกอบไปด้วย 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 16.91% 2. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 7.89% 3. บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) 7.22% 4. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 6.41% 5. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) 5.72% นอกจากนี้กองทุนยังเข้าไปลงทุนในธนาคารแห่งประเทศไทย 7.15%
ทั้งนี้กองทุน TTW1 เป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น – เฉพาะเจาะจง ซึ่งจดทะเบียนกองทุนเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2546 ด้วยเงินทุนโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุน ตราสารแห่งหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และตราสารทางการเงินอื่นๆ ที่กฏหมายกำหนดให้ลงทุนได้ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์ของตลาดทุน และตลาดเงินในแต่ละช่วงเวลา โดยขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัทจัดการ ตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ นอกจากนี้กองทุนมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าปีละ 2 ครั้ง เมื่อมีผลกำไรจากการดำเนินงาน