รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะบริษัทจัดตั้งและจัดการกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์หุ้นระยะยาว จะพิจารณาจ่ายเงินปันผลของกองทุนดังกล่าวสำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2551 โดยบริษัทจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล ณ เวลา 7.00 น.ของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2551 และจะหยุดทำการขายหน่วยลงทุนเป็นการชั่วคราวในวันที่ 1-4 กุมภาพันธ์ 2551 และจะเริ่มเปิดขายหน่วยลงทุนอีกครั้งในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2551 ตามเวลาที่ระบุไว้ในโครงการเป็นต้นไป ทั้งนี้ บริษัทฯ จะยังคงเปิดทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามปกติ และจะประกาศอัตราเงินปันผลและวันจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบต่อไป
สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์หุ้นระยะยาว มีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดยเน้นการกระจายการลงทุนในกลุ่มตราสารแห่งทุนของบริษัทจดทะเบียน ที่เป็นส่วนประกอบในการคำนวณดัชนี SET 50 ทั้งนี้ กองทุนจะใช้กลยุทธ์ในการบริหารกองทุนเชิงรุก (Active Management Strategy) เพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม และจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) และตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note)
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของกองทุน ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 36.19% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 26.22% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 52.36% โดยสัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ 5 อันดับแรกสิ้นสุด ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์
สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์หุ้นระยะยาว มีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดยเน้นการกระจายการลงทุนในกลุ่มตราสารแห่งทุนของบริษัทจดทะเบียน ที่เป็นส่วนประกอบในการคำนวณดัชนี SET 50 ทั้งนี้ กองทุนจะใช้กลยุทธ์ในการบริหารกองทุนเชิงรุก (Active Management Strategy) เพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม และจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) และตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note)
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของกองทุน ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 36.19% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 26.22% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 52.36% โดยสัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ 5 อันดับแรกสิ้นสุด ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์