xs
xsm
sm
md
lg

พิธีกรหนุ่ม "พชร ปัญญายงค์"หุ้น-กองทุน เครื่องมือขยายยอดบัญชีฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ทุกวันนี้แบงก์แบ่งการออมของตัวเองออกเป็น 3 ส่วน ๆ แรก จะเก็บไว้ในรูปของการออมทรัพย์ ส่วนที่สองเป็นการออมในรูปของการลงทุนในหุ้นเพราะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี และแบบสุดท้ายเป็นการออมด้วยการลงทุนในตราสารหนี้ โดยเฉพาะการลงทุนใน LTF ซึ่งหนุ่มแบงก์เสริมอีกว่า การนำเงินเก็บไว้เฉย ๆ มันไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้นควรนำเงินมาลงทุนเพื่อนำเงินมาต่อเงินอีกทีหนึ่ง”

ชื่อ – นามสกุล พชร ปัญญายงค์ (แบงก์)
วันเดือนปีเกิด 14 มกราคม 2523
จบการศึกษา ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวิศวกรอุตสาหกรรม
ปริญญาโท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศและการเงิน
ผลงานปัจจุบัน ผู้ดำเนินรายการเรื่องเล่าเช้านี้ทุกวันจันทร์และวันพุธ
ผู้ดำเนินงานการ Managing Thailand
กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า บางกอก กรุ๊ป

คอลัมน์ผู้จัดการคุยกับนักลงทุนสัปดาห์นี้เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิธีกรหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรงอย่าง “แบงก์ -พชร ปัญญายงค์” ซึ่งใครหลายคนอาจจะคุ้นหน้าเค้าบ้างแล้วจากการเป็นผู้ดำเนินรายการเรื่องเล่าเช้านี้ที่มาแทนคุณปลื้ม ที่ลาออกไป และทั้งนี้หน้าคนอาจจะยังสงสัยว่าเค้าเป็นใครมาจากไหนถึงได้มาทำงานยังจุดนี้ โดยวันนี้หนุ่มแบงก์จะมาเล่าให้เราฟังว่าเค้าเป็นใครมาจากไหน และสิ่งสำคัญที่จะลืมถามเสียมิได้นั้นคือเรื่องของการออมเงินที่เป็นแบบฉบับของเขานั่นเอง

แบงค์ เริ่มเปรยให้ฟังว่า หลังจากเรียนจากเรียนจบ ปริญญาโท ด้านการเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศและการเงิน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว ก็เริ่มมาทำงานให้กับบริษัทของคุณพ่อ นั่นคือ บริษัทโตโยต้า บางกอก กรุ๊ป ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้เปิดมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปีแล้ว ต่อเมื่อทางรายการ Managing Thailand ได้มีการคัดเลือกหาผู้ดำเนินรายการเข้ามาทำหน้าที่ในรายการดังกล่าวตนจึงเข้ามาสมัครด้วย และได้คัดเลือกให้เป็นผู้ดำเนินรายการดังกล่าวในที่สุด และล่าสุดได้รับการทาบทามให้มาเป็นพิธีกรรายการข่าว “เรื่องเล่าเช้านี้”

ส่วนเรื่องการเก็บหอมรอมริบนั้น หนุ่มแบงก์ ให้คอนเซ็ปต์ว่า ทุกวันนี้แบงก์แบ่งการออมของตัวเองออกเป็น 3 ส่วน ๆ แรก จะเก็บไว้ในรูปของการออมทรัพย์ ส่วนที่สองเป็นการออมในรูปของการลงทุนในหุ้นเพราะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี และแบบสุดท้ายเป็นการออมด้วยการลงทุนในตราสารหนี้ โดยเฉพาะการลงทุนใน LTF ซึ่งหนุ่มแบงก์เสริมอีกว่า การนำเงินเก็บไว้เฉย ๆ มันไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้นควรนำเงินมาลงทุนเพื่อนำเงินมาต่อเงินอีกทีหนึ่ง

"ในความคิดของผมนั้นมองว่า การออมนั้นมีหลายรูปแบบด้วยกัน แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน ซึ่งบางคนอาจจะออมด้วยการเล่นหุ้นเพราะมันสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี ส่วนการนำเงินฝากธนาคารนั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงด้วย" พิธีกรหนุ่ม ให้ความคิดเห็น

ในส่วนของการทำงาน ปัจจุบันแบงก์มีงานทั้งในจอและนอกจากมากมาย เริ่มที่ในจอทีวีก่อนกัน ทุกวันนี้ แบงก์เป็นผู้ดำเนินรายการอยู่ 2 รายการ ๆ แรกเป็นรายการ Managing Thailand ออกอากาศมาวันพุธ - เสาร์ - อาทิตย์ ทางสถานีโทรทัศน์ Money Channel ช่อง True Vision 80 และรายการที่ 2 เป็นรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ซึ่งแบงก์จะมาดำเนินรายการทุกวันจันทร์และวันพุธ โดยร่วมพูดคุยถึงหัวข้อเศรษฐกิจเป็นหลัก ส่วนงานนอกวงการบันเทิงนั้นแบงก์ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า บางกอก จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจของทางครอบครัว นอกจากนี้แล้วยังแบ่งเวลามาทำธุรกิจวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้างด้วย ส่วนธุรกิจในอนาคตนั้นแบงก์กล่าวว่า ต้องรอดูถึงจังหวะที่เหมาะสมก่อน เพราะเหตุการณ์บ้านเมืองเราในวันข้างหน้าหลังจากเมื่อมีการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป จะสามารถลงทุนได้หรือไม่

แบงก์ กล่าวว่า การทำงานให้ประสบความสำเร็จนั้น ส่วนตัวแล้วยึดหลักในการทำงานคือต้องทำงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายให้ดี่ที่สุด ใช้เวลาให้เต็มที่ในการทำงาน เพราะทุกเวลามีค่าถ้าไม่ทำให้เต็มที่แล้วเราจะไม่สามารถเรียกร้องสิ่งที่ทำผิดพลาดไปได้อีก

สำหรับงานอดิเรกเมื่อว่างจากการทำงานหนุ่มแบงก์มักจะชอบเล่นกีฬา ด้วยการยกเวต หรือเล่นฟุตบอลกับเพื่อน ๆ บ้าง นอกจากนี้แล้วในบางครั้งมีบ้างที่ไปสังสรรค์เฮฮากับเพื่อน ๆ ด้วยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันต่าง ๆ นานา ซึ่งก็เป็นการผ่อนคลายที่ดีอย่างหนึ่ง

หนุ่มแบงก์ยังบอกอีกว่า ในช่วงสมัยที่เป็นเด็ก ๆ นั้น คุณพ่อคุณแม่มักจะสอนให้รู้ว่าถ้าเราอยากจะได้ของอะไรสักชิ้นหนึ่งมันต้องมีการลงทุนเกิดขึ้น เช่นเมื่ออยากได้ของเล่นหนึ่งอย่างแบงก์จะต้องทำงานแลกเปลี่ยนให้กับคุณพ่อคุณแม่เพื่อจะได้ของเล่นชิ้นนั้นมา ซึ่งแบงก์ถือว่ามันเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้เรารู้จักคุณค่าของเงินมากยิ่งขึ้น เมื่อเวลาเราจะจ่ายเงินเพื่อซื้ออะไรออกไป เราจะได้มีการคิดไตร่ตรองให้รอบครอบก่อนตัดสินใจซื้อ

ในเรื่องของรายได้ที่หนุ่มแบงก์สามารถหามาได้ด้วยตัวเองนั้น เค้าบอกว่า เมื่อช่วงอายุ 16 ปีเคยเป็นคุณครูสอนว่ายน้ำที่โรงเรียนที่เรียนอยู่ ซึ่งทำอยู่เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยได้เป็นรายชั่วโมง ๆ ละ 500 บาท ส่วนการเก็บออมจากรายได้ตรงนี้ยังไม่มี เนื่องจากความที่เป็นเด็กอยู่ ดังนั้นเงินดังกล่าวจึงนำมาใช้ตามประสาเด็กทั่ว ๆ ไป โดยการไปซื้อของใช้ส่วนตัวที่อยากได้บ้างหรือนำเงินดังกล่าวไปแต่งรถยนต์บ้าง ตามประสาเด็กหนุ่มวัยรุ่นทั่วไป

สุดท้ายแบงค์ฝากบอกว่า การลงทุนฬฯสถานการณ์ในบ้านเมืองเราขณะนี้ ต้องเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยให้มีความเสี่ยงต่ำที่สุด เช่น อาจจะเข้าไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งก็สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีเช่นเดียวกัน นอกจากนี้การลงทุนในกองทุนอาร์เอ็มเอฟและกองทุนเอฟไอเอฟก็น่าสนใจ เพราะทั้งสองกองทุนมีคุณสมบัติที่พิเศษแตกต่างจากการลงทุนอื่นๆ เพราะเมื่อเข้ามาลงทุนกับ2 กองทุนดังกล่าวแล้วจะได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษีอีกด้วย

ส่วนถ้าใครมีกำลังมากพอที่สามารถรับกับความสี่ยงได้บ้าง หนุ่มแบงก์ก็กล่าวเสริมว่า การลงทุนในหุ้นช่วงนี้ก็ถือว่าดีเช่นเดียวกัน แต่ถ้านักลงทุนบางรายที่คิดว่าความผันผวนในบ้านเรายังมีอีกมากก็ยังสามารถเข้าไปลงทุนยังกองทุนเอฟไอเอฟได้เหมือนกันเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงไปอีกทางหนึ่งด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น