บลจ. เอ็มเอฟซี ตั้งเป้าโกยเงินเข้าพอร์ตกองทุนส่วนบุคคลปีหน้า 5,000 – 8,000 ล้านบาท หรือเพิ่มอีก 25% โดยเน้นจับกลุ่มสถาบัน นักลงทุนรายใหญ่และกลุ่มแบงก์พันธมิตร ล่าสุดเตรียมนำนวัตกรรมใหม่ช่วยหนุน พร้อมชูความมั่นคงนำเครื่องมือบริหารความเสี่ยงในระดับสากลมาใช้ หวังสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า
นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนงานของกองทุนส่วนบุคค (ไพรเวทฟันด์) ในปีหน้าว่า บริษัทตั้งเป้าเพิ่มเงินลงทุนในกองทุนดังกล่าวอีกประมาณ 5,000 – 8,000 ล้านบาทจากปีนี้ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 25% โดยมูลค่าดังกล่าว คาดว่าจะได้เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบันในสัดส่วนครึ่งหนึ่ง รวมถึงได้จากนักลงทุนรายใหญ่ และจากนัดกลงทุนกลุ่มธนาคารที่เป็นพันธมิตรกับทางบริษัทด้วย
โดยในปีหน้า บริษัทจะใช้กลยุทธเกี่ยวกับการมุ่งแก้ไขการบริหารทรัพย์สินใหักับนักลงทุนทั้งพอร์ตฟอร์ลิโอมากกว่าการลงทุนเพียงอย่างเดียว ซึ่งบริษัทจะช่วยจัดสรรองค์ประกอบของพอร์ตในการปรับเปลี่ยนการลงทุนในตรงกับสถานการณ์ระหว่างปีด้วย
ทั้งนี้ บริษัทจะนำเครื่องมือที่ทันสมัย 2 อย่างเข้ามาช่วย ซึ่งประกอบด้วย การนำนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้นักลงทุนได้มีโอกาสเข้ามาลงทุนมากขึ้น และนำเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงในระดับเดียวกับที่บริษัทได้บริหารให้กับนักลงทุนต่างประเทศ และการบริหารพอร์ตในกับธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) และกบข. ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เป็นสากล
“ในส่วนของการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เราได้ทำการพัฒนา เช่น คอมพิวเตอร์ ทำให้เราสามารถสร้างกำไรส่วนเกินในการเลือกหุ้นที่ดี รวมถึงการเข้าทำการซื้อ การขายในช่วงที่เหมาะสมได้ ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวนี้ ในทางนวัตกรรมเราได้มีการพัฒนาไปยังกลุ่มนักลงทุนสถาบันค่อนข้างมาก ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนในกองทุนไพรเวทฟันด์ได้รับประโยชน์จากการลงทุนมากที่สุด” นายพิชิต กล่าว
นายพิชิต กล่าวว่า ส่วนในอนาคตที่รัฐบาลจะเปิดโอกาสให้กองทุนส่วนบุคคลออกไปลงทุนในต่างประเทศได้นั้น จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าวได้อีกด้วย เนื่องจากบริษัทสามารถเข้าไปลงทุนได้โดยตรง อีกทั้งบริษัทยังมีศักยภาพที่โดดเด่นในการเข้าไปลงทุนยังต่างประเทศได้โดยตรง ซึ่งบลจ. อื่นไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก บลจ. อื่นยังต้องใช้ผู้จัดการกองทุนต่างประเทศเข้าช่วย
ทั้งนี้ เชื่อว่าในการดำเนินงานดังกล่าวของบริษัท จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับบริษัทได้และสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้อีกด้วย
ปัจจุบัน บลจ.เอ็มเอฟซี มีเงินลงทุนรวมในกองทุนส่วนบุคคล ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2550 รวมทั้งสิ้น 21,037.72 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนกันยายน ที่ผ่านมามีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 20,620.31 ล้านบาท ซึ่งมีเงินลงทุนใหม่เพิ่มขึ้นมาทั้งสิ้น 412.42 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.02% โดบบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) เป็นอันดับที่ 3 ของอุตสาหกรรมกองทุนส่วนบุคคลทั้งหมด