การแข่งขันกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) ยังคงดุเดือดอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าหลายบลจ. ต่างออกกองทุนใหม่ ๆ ออกมาล่อใจลูกค้า ซึ่งตอนนี้เมื่อตรวจสอบกันจะเห็นว่าหลายค่ายต่างเล็งเข้าไปลงทุนยังประเทศเกิดใหม่กันเป็นจำนวนมาก เพราะการเข้าไปลงทุนนั้นต่างให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วบางประเทศเสียอีก
วันนี้ “ MutualFund IPO” นำกองทุนFIF ของ 2 ค่ายบลจ. ที่มีนโยบายเข้าไปลงทุนในประเทศตรงกันมานำเสนอ เผื่อว่านักลงทุนท่านใดกำลังที่จะเข้าไปลงทุนที่จะกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปยังต่างประเทศและต้องการผลตอบแทนที่สูงจะได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจลงทุน
เพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด บอกว่า หลังจากที่บริษัทได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ BRIC ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน จะเห็นว่ากลุ่มประเทศเหล่านี้มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายตัวด้านการค้าและอุตสาหกรรม ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ชันนำหลายท่านได้คาดการณ์ว่าในอนาคต เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ BRIC เหล่านี้จะขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าประเทศในกลุ่ม G6
โดยบริษัทเชื่อว่าจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีต่อเนื่องของกลุ่มประเทศ BRIC น่าจะสร้างโอกาสให้ผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการขยายตัวสูงในโลก บริษัทจึงออกกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) เพิ่มอีก 1 กองทุนคือ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) บริค สตาร์ ฟันด์ หรือ PBS ที่มีนโยบายเน้นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Allianz – dit BRIC Stars ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และเพื่อรักษาสภาพคล่องของกองทุน ซึ่งกองทุน PBS จะเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงในระดับที่สูงได้
สำหรับกองทุนรวมหลัก กองทุน Allianz – dit BRIC Stars เป็นกองทุนภายใต้การบริหารจัดการโดยกลุ่ม Allianz Global Investors (AGI) ซึ่งถือเป็นบริษัทจัดการลงทุนระดับโลกพร้อมด้วยทีมนักวิเคราะห์ถึง 75 คน จากทั่วทุกมุมโลก และคณะผู้จัดการกองทุน เครื่องมือการวิเคราะห์ Grassroots เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุนในศักยภาพการบริหารกองทุน
ทั้งนี้กองทุน Allianz-dit BRIC Stars บริหารจัดการโดยกลุ่ม Allianz Global Investors (AGI) ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน นับจากวันที่ 30 ก.ย. 2550 อยู่ที่ 35.7% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 70.1% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2549 อยู่ที่ 77.5% ส่วนพอร์ตการลงทุนของกองทุนหลัก อยู่ในประเทศบราซิล 28.2% อินเดีย 24.5% จีน 19.8% และรัสเซีย 16.6% เป็นต้น โดยเหตุผลที่ลงจีนน้อย เพราะราคาหุ้นจีนขึ้นไปมากในขณะนี้
ขณะเดียวกัน เงิลงทุนส่วนที่เหลือของกองทุนเปิดพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) บริค สตาร์ ฟันด์ นั้นอาจลงทุนในตราสารหนี้ หรือเงินฝากสถาบันการเงิน เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงานของกองทุน และเพื่อรักษาสภาพคล่องของกองทุน ซึ่งกองทุน PBS จะเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารรับความเสี่ยงในระดับที่สูงได้ โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 14-20 พฤศจิกายนนี้ เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
ด้านลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)แอสเซท พลัส จำกัด บอกว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอเชี่ยนสเปเชียลซิททูเอชั่นส์ (ASP-ASIAN) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศเอเชีย ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น ผ่านกองทุน Fidelity Advisor World-Asian Special Situations Fund ที่บริหารจัดการโดย Fidelity Management & Research (FMR) พบว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนโดยสามารถระดมทุนในการเสนอขายครั้งแรก (IPO) ได้ 803.46 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าสถานการณ์การลงทุนในขณะนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียที่มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความเชื่อมั่นในกองทุน Fidelity Advisor World-Asian Special Situations Fund ที่กองทุนเข้าลงทุนมีผลการดำเนินงานที่ดีมาโดยตลอด
ดังนั้นบริษัทจึงเตรียมออกบริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสบริค (ASP-BRIC) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ปลายเดือน พ.ย.นี้ เน้นลงทุนในกลุ่ม ประเทศผู้นำเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะเข้าไปลงทุนในกองทุน Templeton BRIC Fund ที่บริหารจัดการโดย TempletonAsset Management ซึ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ของประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดียและจีน(รวมไต้หวันและฮ่องกง)
ลดาวรรณ บอกเสริมอีกว่า “ปัจจุบันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ emerging market กำลังเป็นที่สนใจในการลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศผู้นำเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ เช่น บราซิล รัสเชีย อินเดีย และจีน เรามองว่าในจังหวะนี้ การเลือกลงทุนในหุ้นคุณภาพ หรือมีความแข็งแกร่งในธุรกิจ จะสามารถให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ”
ส่วนสัดส่วนในการลงทุนของกองทุนเปิด แอสเซทพลัสบริค (ASP-BRIC) นั้นประกอบด้วยจีน 33.6% บราซิล 25.8%รัสเซีย 22.9% และอินเดีย 10.2% ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์มองว่าประเทศในตลาดเกิดใหม่ เป็นกลุ่มประเทศหลักที่จะผลักดันเศรษฐกิจของโลก โดยในปีหน้าอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) น่าจะอยู่ที่ราว 9% ณ สิ้นเดือนก.ย.50 กองทุน Templeton BRIC Fund ลงทุนในตลาดเอเชียประมาณ 47.04% บราซิล 26.86% รัสเซีย 23.84%
วันนี้ “ MutualFund IPO” นำกองทุนFIF ของ 2 ค่ายบลจ. ที่มีนโยบายเข้าไปลงทุนในประเทศตรงกันมานำเสนอ เผื่อว่านักลงทุนท่านใดกำลังที่จะเข้าไปลงทุนที่จะกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปยังต่างประเทศและต้องการผลตอบแทนที่สูงจะได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจลงทุน
เพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด บอกว่า หลังจากที่บริษัทได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ BRIC ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน จะเห็นว่ากลุ่มประเทศเหล่านี้มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายตัวด้านการค้าและอุตสาหกรรม ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ชันนำหลายท่านได้คาดการณ์ว่าในอนาคต เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ BRIC เหล่านี้จะขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าประเทศในกลุ่ม G6
โดยบริษัทเชื่อว่าจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีต่อเนื่องของกลุ่มประเทศ BRIC น่าจะสร้างโอกาสให้ผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการขยายตัวสูงในโลก บริษัทจึงออกกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) เพิ่มอีก 1 กองทุนคือ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) บริค สตาร์ ฟันด์ หรือ PBS ที่มีนโยบายเน้นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Allianz – dit BRIC Stars ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และเพื่อรักษาสภาพคล่องของกองทุน ซึ่งกองทุน PBS จะเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงในระดับที่สูงได้
สำหรับกองทุนรวมหลัก กองทุน Allianz – dit BRIC Stars เป็นกองทุนภายใต้การบริหารจัดการโดยกลุ่ม Allianz Global Investors (AGI) ซึ่งถือเป็นบริษัทจัดการลงทุนระดับโลกพร้อมด้วยทีมนักวิเคราะห์ถึง 75 คน จากทั่วทุกมุมโลก และคณะผู้จัดการกองทุน เครื่องมือการวิเคราะห์ Grassroots เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุนในศักยภาพการบริหารกองทุน
ทั้งนี้กองทุน Allianz-dit BRIC Stars บริหารจัดการโดยกลุ่ม Allianz Global Investors (AGI) ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน นับจากวันที่ 30 ก.ย. 2550 อยู่ที่ 35.7% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 70.1% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2549 อยู่ที่ 77.5% ส่วนพอร์ตการลงทุนของกองทุนหลัก อยู่ในประเทศบราซิล 28.2% อินเดีย 24.5% จีน 19.8% และรัสเซีย 16.6% เป็นต้น โดยเหตุผลที่ลงจีนน้อย เพราะราคาหุ้นจีนขึ้นไปมากในขณะนี้
ขณะเดียวกัน เงิลงทุนส่วนที่เหลือของกองทุนเปิดพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) บริค สตาร์ ฟันด์ นั้นอาจลงทุนในตราสารหนี้ หรือเงินฝากสถาบันการเงิน เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงานของกองทุน และเพื่อรักษาสภาพคล่องของกองทุน ซึ่งกองทุน PBS จะเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารรับความเสี่ยงในระดับที่สูงได้ โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 14-20 พฤศจิกายนนี้ เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
ด้านลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)แอสเซท พลัส จำกัด บอกว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอเชี่ยนสเปเชียลซิททูเอชั่นส์ (ASP-ASIAN) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศเอเชีย ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น ผ่านกองทุน Fidelity Advisor World-Asian Special Situations Fund ที่บริหารจัดการโดย Fidelity Management & Research (FMR) พบว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนโดยสามารถระดมทุนในการเสนอขายครั้งแรก (IPO) ได้ 803.46 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าสถานการณ์การลงทุนในขณะนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียที่มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความเชื่อมั่นในกองทุน Fidelity Advisor World-Asian Special Situations Fund ที่กองทุนเข้าลงทุนมีผลการดำเนินงานที่ดีมาโดยตลอด
ดังนั้นบริษัทจึงเตรียมออกบริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสบริค (ASP-BRIC) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ปลายเดือน พ.ย.นี้ เน้นลงทุนในกลุ่ม ประเทศผู้นำเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะเข้าไปลงทุนในกองทุน Templeton BRIC Fund ที่บริหารจัดการโดย TempletonAsset Management ซึ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ของประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดียและจีน(รวมไต้หวันและฮ่องกง)
ลดาวรรณ บอกเสริมอีกว่า “ปัจจุบันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ emerging market กำลังเป็นที่สนใจในการลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศผู้นำเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ เช่น บราซิล รัสเชีย อินเดีย และจีน เรามองว่าในจังหวะนี้ การเลือกลงทุนในหุ้นคุณภาพ หรือมีความแข็งแกร่งในธุรกิจ จะสามารถให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ”
ส่วนสัดส่วนในการลงทุนของกองทุนเปิด แอสเซทพลัสบริค (ASP-BRIC) นั้นประกอบด้วยจีน 33.6% บราซิล 25.8%รัสเซีย 22.9% และอินเดีย 10.2% ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์มองว่าประเทศในตลาดเกิดใหม่ เป็นกลุ่มประเทศหลักที่จะผลักดันเศรษฐกิจของโลก โดยในปีหน้าอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) น่าจะอยู่ที่ราว 9% ณ สิ้นเดือนก.ย.50 กองทุน Templeton BRIC Fund ลงทุนในตลาดเอเชียประมาณ 47.04% บราซิล 26.86% รัสเซีย 23.84%