บลจ.ทิสโก้ ปลื้มกองไชน่าลิงก์ ผลตอบแทนสะสมพุ่งถึง 20.7% หลังดัชนีฮั่งเส็งปรับตัวต่อเนื่อง เชื่อแนวโน้มจีนยังร้อนแรงจากเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเอเชีย พร้อมระบุกองลักษณะเดียวกันอย่าง เจแปนลิงก์ มีอนาคตสดใส แม้ผลตอบแทนจะไม่มาก จากภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นชะลอตัว บวกกับนักลงทุนยังได้รับการคุ้มครองเงินต้นอยู่แล้ว
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ผลจากการที่ดัชนีฮั่งเส็งที่เพิ่มขึ้นมาในขณะนี้ ทำให้กองทุนเปิด ไชน่าลิงก์ มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเป็นระยะเวลา 120 แล้วประมาณ 20.7% ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุมาจากเงินทุนจำนวนมากที่ไหลเข้ามาในทวีปแถบเอเชียทำให้บรรยากาศของการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของจีนเป็นไปอย่างคึกคัก
" ตลาดหุ้นจีนน่าจะมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากจีนเองมีการผลักดันให้นำหุ้นออกไปขายในต่างประเทศเพื่อขยายการลงทุน และแนวโน้มเงินทุนไหลเข้าทวีปแถบเอเชียก็เป็นปัจจัยเสริมทำให้ราคาหุ้นของจีนสูงขึ้นอีกได้"นายธีรนาถกล่าว
สำหรับการเข้าไปลงทุนในสตรัคเจอร์โน๊ตของกองทุน ไชน่าลิงก์ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นฮ่องกงในขณะนั้นอยู่ในระดับต่ำที่ประมาณ 10,000 จุด และค่าP/E ขณะนั้นก็ถือเป็นราคาถูกเมื่อเทียบกับการเติบโตหุ้นในประเทศจีน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนที่เข้ามาซื้อหน่วยลงทุนกับเรามีความพอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนจนถึงขณะนี้มีสูงตกปีละเกือบ 7% นอกจากนี้ การลงทุนในกองทุนนี้ยังมีความเสี่ยงที่ต่ำด้วยเนื่องจากมีการคุ้มครองเงินต้น ซึ่งหากดัชนีติดลบก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
นายธีรนาถ กล่าวอีกว่า สำหรับกองทุนเจแปน ซึ่งมีลักษณะเดียวกันกับกองทุนไชน่าลิงค์ แต่มีผลตอบแทนในช่วงทีผ่านมาต่ำกว่า เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในภาวะชะลอตัว อีกทั้งยังมีปัญหาการเมืองด้านการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำเป็นปัจจัยกดดันทำให้ดัชนีนิเคอิ อยู่ในภาวะชะงักงัน แต่เชื่อว่าหลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาชะลอตัวลงจะทำให้มีเงินทุนไหลเข้ามาในภูมิภาคนี้ร่วมถึงญี่ปุ่นด้วยก็จะทำให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคตได้
"ในช่วงที่ผ่านมาประเทศญี่ปุ่นมีปัญหาในด้านผู้นำทางการเมืองทำให้เศรษฐกิจมีการชะลอตัวลง ซึ่งแม้ดัชนีนิเคอิจะติดลบก็ไม่ถือว่าเป็นผลต่อผู้ลงทุน เนื่องจากมีการคุ้มครองเงินต้น และไม่ได้นำมาค่าเปลี่ยนแปลงที่ติดลบมาคำนวณผลตอบแทน แต่เมื่อดูจากผลการดำเนินงานตั้งแต่ตั้งกองทุน ผู้ลงทุนก็ยังได้ผลตอบแทนที่ดีในระดับหนึ่ง โดยหลังจากนี้คงมีเงินไหลเข้ามาในญี่ปุ่นมากขึ้นจากการชะลอตัวของสหรัฐอเมริกา อีกทั้งค่าเงินเยนเองก็คงจะแข็งขึ้งทำให้อนาคตดัชนีนิเคอิคงจะปรับตัวดีขึ้นได้มากกว่านี้"นายธีรนาถกล่าว
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ทิสโก้ไชน่าลิงก์ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ประเภทสตรัคเจอร์โน๊ตที่มีการจ่ายผลตอบแทนแบบลอยตัวนอกเหนือจากอัตราดอกเบี้ยที่ระบุไว้ในตราสารหนี้ ด้วยการอ้างอิงผลตอบแทนจากดัชนีฮั่งเส็งในประเทศฮ่องกง และมีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 1 ปี 9 เดือน โดยอัตราผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 197 วันอยู่ที่ประมาณ 20.71% และมีผลตอบแทนเมื่อเทียบกับดัชนีนิเคอิในเดือนกันยายนสูงถึง 14.78%
ขณะที่ กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปนลิงก์ เป็นกองทุนที่มีอายุโครงการประมาณ 1 ปี 9 เดือนเช่นกัน และมีมูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท โดยจะลงทุนในตราสารหนี้ลักษณะเดียวกันกับกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่าลิงก์ แต่จะมีผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี นิเคอิของประเทศญี่ปุ่นแทนดัชนีฮั่งเส็ง สำหรับผลตอบแทนสะสมของกองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปนลิงก์ เป็นเวลา 140 วันอยู่ที่ประมาณ 0.12% ส่วนผลตอบแทนเมื่อเทียบกับดัชนีนิเคอิในเดือนกันยายนที่ผ่านมาอยู่ที่ 0.14%