บลจ.บัวหลวงคลอดกองทุนอาร์เอ็มเอฟรับดีมานด์ช่วงปลายปี เตรียมเปิดขาย "บัวหลวงหุ้น 25% เพื่อการเลี้ยงชีพ" 6-19 พฤศจิกายนนี้ กระจายการลงทุนในตรสารหนี้พร้อมรับโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุนในหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 25% พร้อมเดินหน้าส่ง 2 กองทุนตราสารหนี้โกยเงินต่อ เสนอทาเงลือกลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 6-19 พฤศจิกายนนี้ บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้น 25% เพื่อการเลี้ยงชีพ (B25RMF) ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) กองใหม่ โดยจำนวนเงินทุนของโครงการ 5,000 ล้านบาท และสามารถเสนอขายได้อีกไม่เกิน 750 ล้านบาท
โดยการเปิดขายกองทุนดังกล่าว เพื่อเป็นการส่งเสริมการออมแบบผูกพันระยะยาวเพื่อการเลี้ยงชีพหลังเกษียณอายุของผู้ถือหน่วยลงทุน และตอบสนองผู้ลงทุนที่มุ่งหวังผลตอบแทนที่กองทุนได้รับจากดอกเบี้ย หรือกำไรส่วนเกินทุนจากการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ รวมทั้งผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับจากเงินปันผลหรือกำไรส่วนเกินทุนจากการลงทุนในตราสารแห่งทุนในสัดส่วนการลงทุนในหุ้นขณะใดขณะหนึ่งไม่เกิน 25% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน อันเป็นการกำจัดความเสี่ยงและโอกาสจากการลงทุนในหุ้นไม่ให้เกิดสัดส่วนที่กำหนด
ทั้งนี้ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้น 25% เพื่อการเลี้ยงชีพ มีนโยบายเน้นการลงทุนระยะยาวในตราสารแห่งหนี้ และเงินฝาก หลักทรัพย์ หรือหลักทรัพย์อื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดให้ลงทุนได้ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีศักยภาพสูงในการให้ผลตอบแทนจากการลงทุน และหรือเงินฝาก และหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ไม่เกิน 25% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และไม่ลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note)
นางวรวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้ว กองทุน B25RMF ยังเหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้บ้างจากการเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุนในหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 25% ซึ่งจะทำให้กองทุนนี้มีความผันผวนและความเสี่ยงต่ำกว่า RMF ที่เป็นกองทุนหุ้นซึ่งลงทุนในหุ้นไม่ต่ำกว่า 65% และลงทุนหุ้นได้สูงสุดโดยไม่จำกัดสัดส่วน
สำหรับกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพของทั้งอุตสาหกรรม ณ เดือนสิงหาคม 2550 มีจำนวนทั้งสิ้น 72 กองทุน แบ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ 33 กองทุน หรือจำนวน 45% กองทุนรวมผสม 21 กองทุน หรือจำนวน 36% และกองทุนหุ้น จำนวน 18 กองทุน หรือจำนวน 19% ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวพบว่า สัดส่วนการลงทุนในกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพแบบผสมและตราสารหนี้มีสัดส่วนรวมกันถึง 81% ในขณะที่ตราสารทุนมีเพียง 19%
"จากข้อมูลดังกล่าว เราจึงเล็งเห็นช่องทางในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพให้หลากหลายครบทุกระดับความเสี่ยง (Risk & Return Profile) คือ ตั้งแต่เสี่ยงน้อยคือ บัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (Risk = 2) เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำคือกองทุนบัวหลวงหุ้น 25% เพื่อการเลี้ยงชีพ ที่กำลังจะออกใหม่นี้ (Risk = 4) เสี่ยงปานกลางคือ บัวหลวงเฟล็กซิเบิ้ลเพื่อการเลี้ยงชีพ (Risk = 5) และเสี่ยงสูงคือ บัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (Risk = 7) ซึ่งลงทุนในหุ้นได้เต็มที่โดยหวังผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าประเภทอื่นๆ"นางวรวรรณกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศอีก 2 กองทุน หลังจากกองทุนประเภทนี้ยังคงได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างวันที่ 5-12 พฤศจิกายนนี้ บริษัทจะเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 24/07 ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐความเสี่ยงต่ำอายุ 10-12 เดือนและกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 3/07 เน้นลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินต่างประเทศ (ความเสี่ยงต่ำ) อายุ 5-6 เดือน โดยทั้ง 2 กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุน อัตโนมัติ เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีของผู้ลงทุน