บลจ.แอสเซท พลัส ปลื้มลูกค้าตอบรับกองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอเชี่ยนสเปเชียลซิททูเอชั่นส์ เผยหลังปิดไอพีโอระดมทุนได้ 803.46 ล้านบาท เดินหน้าเสนอขายหน่วยลงทุนอีกครั้ง วันที่ 31 ตุลาคมนี้ พร้อมโชว์ทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการเกินเป้าหมาย ล่าสุดเอยูเอ็มทะลุ 21,121.40 ล้านบาท
นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอเชี่ยนสเปเชียลซิททูเอชั่นส์ (ASP-ASIAN) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศเอเชีย ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น ผ่านกองทุน Fidelity Advisor World-Asian Special Situations Fund ที่บริหารจัดการโดย Fidelity Management & Research (FMR) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนระดับแนวหน้าของโลก ในระหว่างวันที่ 15-25 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่ากองทุน ASP-ASIAN ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนโดยสามารถระดมทุนในการเสนอขายครั้งแรก (IPO) ได้ 803.46 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าสถานการณ์การลงทุนในขณะนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียที่มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความเชื่อมั่นในกองทุน Fidelity Advisor World-Asian Special Situations Fund ที่กองทุนเข้าลงทุนมีผลการดำเนินงานที่ดีมาโดยตลอด
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน Fidelity Advisor World-Asian Special Situations Fund ณ วันที่ 30 กันยายน 2550 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 17.72% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 36.25% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 61.71% ย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 39.94% ย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 32.52% และตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ 36.37% เปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI All Countries Far East ex Japan ที่ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 18.74% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 37.24% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 61.10% ย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 35.95% ย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 31.55% และตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ 39.25%
ทั้งนี้ หลังจากจดทะเบียนกองทุนแล้ว บริษัทฯ จะเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุน ASP-ASIAN อีกครั้งในวันที่ 31 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยกองทุนสามารถซื้อได้ทุกวันทำการ และขายคืนได้ในวันทำการสุดท้ายของแต่ละสัปดาห์ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าของ บลจ. แอสเซท พลัส โทรศัพท์ 02-672-1111 และผู้สนับสนุนการขายและบซื้อคืนที่บริษัทแต่งตั้ง
นางลดาวรรณกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ (เอยูเอ็ม) ของ บลจ.แอสเซท พลัส ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าหมายเอยูเอ็มที่ 20,000 ล้านบาท ภายในปี 2550 นั้น หลังจากที่บริษัทฯ ได้ปิดเสนอขายกองทุน FIF กองทุนเปิด แอสเซทพลัสเอเชี่ยนสเปเชียลซิททูเอชั่นส์ ส่งผลให้บริษัทมีสินทรัพย์ของกองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการ ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2550 จำนวน 17,392.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2549 จำนวน 5,478.71 ล้านบาท หรือ 45.99% โดยเมื่อรวมกับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลแล้ว ทำให้บริษัทมีเอยูเอ็มรวมจำนวน 21,121.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44.59% ซึ่งสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอเชี่ยนสเปเชียลซิททูเอชั่นส์ (ASP-ASIAN) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศเอเชีย ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น ผ่านกองทุน Fidelity Advisor World-Asian Special Situations Fund ที่บริหารจัดการโดย Fidelity Management & Research (FMR) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนระดับแนวหน้าของโลก ในระหว่างวันที่ 15-25 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่ากองทุน ASP-ASIAN ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนโดยสามารถระดมทุนในการเสนอขายครั้งแรก (IPO) ได้ 803.46 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าสถานการณ์การลงทุนในขณะนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียที่มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความเชื่อมั่นในกองทุน Fidelity Advisor World-Asian Special Situations Fund ที่กองทุนเข้าลงทุนมีผลการดำเนินงานที่ดีมาโดยตลอด
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน Fidelity Advisor World-Asian Special Situations Fund ณ วันที่ 30 กันยายน 2550 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 17.72% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 36.25% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 61.71% ย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 39.94% ย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 32.52% และตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ 36.37% เปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI All Countries Far East ex Japan ที่ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 18.74% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 37.24% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 61.10% ย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 35.95% ย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 31.55% และตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ 39.25%
ทั้งนี้ หลังจากจดทะเบียนกองทุนแล้ว บริษัทฯ จะเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุน ASP-ASIAN อีกครั้งในวันที่ 31 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยกองทุนสามารถซื้อได้ทุกวันทำการ และขายคืนได้ในวันทำการสุดท้ายของแต่ละสัปดาห์ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าของ บลจ. แอสเซท พลัส โทรศัพท์ 02-672-1111 และผู้สนับสนุนการขายและบซื้อคืนที่บริษัทแต่งตั้ง
นางลดาวรรณกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ (เอยูเอ็ม) ของ บลจ.แอสเซท พลัส ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าหมายเอยูเอ็มที่ 20,000 ล้านบาท ภายในปี 2550 นั้น หลังจากที่บริษัทฯ ได้ปิดเสนอขายกองทุน FIF กองทุนเปิด แอสเซทพลัสเอเชี่ยนสเปเชียลซิททูเอชั่นส์ ส่งผลให้บริษัทมีสินทรัพย์ของกองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการ ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2550 จำนวน 17,392.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2549 จำนวน 5,478.71 ล้านบาท หรือ 45.99% โดยเมื่อรวมกับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลแล้ว ทำให้บริษัทมีเอยูเอ็มรวมจำนวน 21,121.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44.59% ซึ่งสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้