xs
xsm
sm
md
lg

"วราวุธ เจนธนากุล"เก็บออม40%ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วันนี้พิธีกรรายกร “ตู้ซ่อนเงิน” เอ – วราวุธ เจนธนากุล จะมาเล่าถึงเรื่องราวส่วนตัวผ่านคอลัมน์ ผู้จัดการคุยกับนักลงทุน ในอีกมุมหนึ่งของชีวิตเกี่ยวกับการจัดสรรเงินว่าตั้งแต่เป็นเด็กมาจนถึงทุกวันนี้ มีการบริหารเงินหรือเก็บออมเงินอย่างไรบ้าง และกับตำแหน่งผู้ช่วยประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด นั้นต้องทำอะไรบ้าง

เอ เริ่มเล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันทำงานประจำอยู่ที่ บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่งผู้ช่วยประธานกรรมการ โดยจะดูในเรื่อง โปรเจคการลงทุนใหม่ ๆ ซึ่งปัจจุบันดูในเรื่องของการลงทุนในประเทศจีนเป็นหลัก เพราะตอนนี้ จีนกำลังมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และกำลังของผู้บริโภคเองก็มีศักยภาพสูงขึ้น อีกทั้งในปีหน้าจีนจะมีการจัดกีฬาโอลิมปิก ทำให้มีการก่อสร้างมีค่อนข้างมาก ดังนั้นการบริโภคการใช้จ่ายในปีหน้าจะมีเพิ่มมากขึ้น

นอกจากบทบาทการเป็นผู้บริหารแล้ว ปัจจุบันเขายังเป็นพิธีการรายการ "ตู้ซ่อนเงิน" ซึ่งจะออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลาสี่ทุ่มทางช่อง 5 โดย "เอ" บอกว่า กับงานพิธีกรนั้นได้มาอย่างไม่คาดคิด เนื่องจากในช่วงปีที่ผ่านบริษัททรูฯ ได้เชิญผู้บริหารต่าง ๆ มาดูงานยังประเทศจีนและการดูงานครั้งนี้เองก็มีผู้บริหารจากบริษัทเวิร์คพอยท์ฯ มาร่วมด้วย ซึ่งทางผู้ใหญ่ของบริษัทเวิร์คพอยท์ฯ ได้เห็นขณะตอนที่เสนองานงานจึงเกิดความสนใจและชักชวนให้มาเป็นพิธีกรรายการดังกล่าว ซึ่งครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะเราไม่มีพื้นฐานกับงานตรงนี้มาก่อน แต่เมื่อทำไปสักระยะหนึ่งก็เกิดความรู้สึกชอบกับงานพิธีกร

เขาบอกว่า งานทั้งสองอย่างต่างให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันนั้นคือการทำให้เรามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น กล้าที่จะแสดงออกในที่สาธารณชนมากขึ้น ส่วนของเรื่องเวลาการทำงานประจำกับงานพิธีการนั้น เอบอกว่า ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด เพราะการถ่ายทำรายการตู้ซ่อนเงินนั้น เป็นการบันทึกเทปล่วงหน้า ซึ่งจะบันทึก เดือนละครั้งเท่านั้น

สำหรับหลักและแนวคิดในการทำงานของเอนั้น เขาบอกว่า “อย่างแรกเลยคือต้องทำโอกาสที่เราได้รับให้ดีที่สุด ไม่ว่าผลของการกระทำจะเป็นอย่างไรในวันข้างหน้า ถ้าไม่เป็นผลดีก็ไม่ต้องไปเสียใจ เพราะเราทำมันเต็มที่แล้ว แต่ในครั้งต่อ ๆ ไป เมื่อได้รับโอกาสในการทำงานอีกครั้ง เราควรที่จะต้องคิดให้รอบคอบมากกว่าเก่า โดยนำประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เคยผิดพลาดนำมาปรับใช้เพื่อเป็นบทเรียนในครั้งต่อไป เพื่อให้งานใหม่ดียิ่งขึ้นหรือเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด นอกจากนี้แล้วเวลาทำงานเราไม่ได้ทำเพียงคนเดียว ดังนั้นเราต้องให้เกียรติเพื่อนร่วมงานน ต้องทำให้เพื่อนร่วมงานไม่ลำบากใจ และงานนั้นก็จะออกมาดีตามที่เราได้ตั้งใจไว้”

เอ บอกต่ออีกว่า เมื่อมีเวลาว่างจากการทำงานจะชอบไปพักผ่อนที่ทะเล ซึ่งจะชอบไปนั่งดูเคลื่อนทะเลโดยมันทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และถ้าช่วงไหนมีเวลาพักผ่อนไม่มากก็จะชอบไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน นอกจากนี้แล้วการพักผ่อนอีกหนึ่งสิ่งที่เอชอบมากที่สุดนั้นคือการอยู่กับบ้านก็ถือได้ว่าเป็นการผ่อนคลายที่ดีด้วย

เข้าเรื่องของการออมเงินกันบ้าง เอ บอกว่า เมื่อครั้งสมัยเป็นเด็กครอบครัวได้มีการปลูกฝังเรื่องของการออมเงินให้รู้จักประหยัดและคุณค่าของเงินเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าเราเป็นลูกชายคนโตคุณพ่อคุณเม่จึงอย่างให้เป็นแบบอย่างดีกับน้อง ๆ

รายได้ก้อนแรกที่เอสามารถหาได้ด้วยตัวเองนั้น คือ หลังจากที่เรียนจบจากคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ได้เงินเดือนก้อนแรกจำนวน 15,000 บาท ซึ่งในช่วงแรก การจัดสรรเงินดังกล่าวยังไม่เป็นรูปเป็นร่างมากนัก เนื่องจากว่ายังอยู่ในช่วงวัยรุ่น แต่อย่างไรก็ตามจากเงินที่ได้ในแต่ละเดือนก็จะแบ่งเก็บไว้ประมาณ 10% เพื่อเป็นการฝึกตัวเองให้มีวินัยทางการเงินด้วย

สำหรับรายได้ในปัจจุบันเอจะแบ่งไว้ 40% สำหรับการออม โดยหลัก ๆ 30% จะออมด้วยการฝากประจำกับทางธนาคาร ส่วนที่เหลืออีก 10% เป็นการซื้อพันธบัตรรัฐบาล ลงทุนในหุ้นด้วย ซึ่งการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นเอบอกว่า เล่นมาตังแต่อายุ 25 ปีแล้ว ส่วนใหญ่จะเน้นลงทุนในบริษัทมีศักยภาพสูง สามารถทำกำไรได้ โดยจะเข้าไปลงทุนในช่วงระยะยาวมากกว่าระยะสั้น เพราะมองว่าน่าจะผลตอบแทนที่ดีกว่า ปัจจุบันหุ้นที่ลงเล่นนั้นจะเป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีก พลังงาน แบงก์ และกลุ่มเทเลคอม

เอบอกว่า อยากให้ทุกคนตระหนักถึงการออมให้มาก ๆ เพราะมันจะมีความสำคัญกับเรามากเมื่อเกิดยามฉุกเฉิน สิ่งที่ไม่คาดฝันย่อมเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเงินก้อนดังกล่าวที่เราเก็บมันจะสามารถนำมาใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องเดือดร้อนคนอื่น ซึ่งอยากให้ทุกคนรู้จักการวางแผนการใช้เงินที่ดีด้วย สำหรับผู้ที่คิดอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ก็ต้องมีการออมตั้งแต่วันนี้ และจากภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนการลงทุนอะไรก็ตามต้องดูให้ดีอย่างรอบคอบ

ส่วนอนาคตเอบอกว่า อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองเกี่ยวกับด้านการศึกษา การผลิตหนังสือ และอุปกรณ์ด้านการศึกษา เพราะโดยพื้นฐานของการศึกษาจะทำให้คนมีความรู้ สามารถเปิดโอกาสให้กับตัวเองได้รับสิ่งดี ๆ มากขึ้น และสามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้

เอปิดท้ายว่า ในช่วงเศรษฐกิจที่ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง การฝากเงินไว้กับแบงค์ม่าควรเกิน 1 – 2 ปี ส่วนคนที่อยากจะทำธุรกิจเป็นของตัวเองควรจะศึกษาอย่างรอบคอบ เมื่อรู้ว่าไม่มีความเชี่ยวชาญหรือมีความรู้ไม่มากพอก็ยังไม่ควรคิดที่จะลงทุน และในช่วงเศรษฐกิจอย่างนี้การเก็บเงินสดไว้กับตัวเป็นการดีที่สุด

///
ล้อมกรอบ
ชื่อ – นามสกุล วราวุธ เจนธนากุล (เอ)
วันเดือนปีเกิด 28 สิงหาคม 2519
จบการศึกษา ปริญญาโท บริหารธุรกิจ Kellogg School of Management มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น
รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา
ปริญญาตรีเกียรตินิยม คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
งานปัจจุบัน ผู้ช่วยประธานกรรมการ บริษัท ทรูวิชั่น จำกัด
พิธีกรรายการ ตู้ซ่อนเงิน
กำลังโหลดความคิดเห็น