xs
xsm
sm
md
lg

กบข.ดันพอร์ตลงทุนตปท.เต็มเพดาน เล็งขนเงินหมื่นล้านลุยหุ้นก่อนสิ้นปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กบข.เตรียมขนเงินหมื่นล้านลุยหุ้นเมืองนอก หวังดันเป้าการลงทุนต่างประเทศให้ขยายตัวเพิ่มเป็น 14.5% ของสินทรัพย์รวมทั้งหมดก่อนสิ้นปี ยืนยันนโยบายการลงทุนของกบข.ยังอยู่ในประเทศ ส่วนการลงทุนต่างประเทศเป็นแค่การกระจายความเสี่ยงในการลงทุน พร้อมคาดแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยอีกช่วงสิ้นปีทำให้ตราสารหนี้ที่ถืออยู่มีกำไรมากขึ้น

นายวิสิฐ ตันติสุนทร
เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า การลงทุนในต่างประเทศของกบข.จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมีการลงุทนในต่างประเทศไปแล้วจำนวน 12% จากเพดานที่ตั้งไว้ 15% หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3.7 หมื่นล้านบาท ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่มีอยู่ปัจุบันประมาณ 365,000 ล้านบาท โดยหลังจากนี้หากทิศทางการลงทุนเป็นไปตามนโยบายที่วางไว้คาดว่าในปลายปีนี้ กบข. จะสามารถนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มได้อีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และจะทำให้ กบข .กระจายการลงทุนในต่างประเทศรวมเป็นจำนวน 14.5% หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 4.5 หมื่นล้านบาทของทรัพย์สินสุทธิ

สำหรับสัดส่วนการลงทุนของกบข.ในต่างประเทศดังกล่าวจะแบ่งเป็นการลงทุนในตราสารทุนต่างประเทศประมาณ 10.5% หรือคิดเป็นเงินประมาณ 32,000 ล้านบาท และการลงทุนตราสารหนี้ใน 4 % หรือคิดเป็นเงินประมาณ 13,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศตามสัดส่วนดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 6-7%

ทั้งนี้ คาดว่าในอนาคตจำนวนสิ้นทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารของกบข.จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.7 แสนล้านบาท จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 3.65 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม การเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศในไตรมาส 4 โดยเฉพาะในตราสารทุนอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาทนั้น ไม่ถือเป็นนโยบายหลักในการลงทุนของกบข. เนื่องจากภาพรวมการลงทุนของ กบข. ยังคงเน้นการลงทุนในประเทศไทยเป็นหลัก โดยเฉพาะการลงทุนในตราสารหนี้ และตราสารทุนในประเทศ ส่วนการกระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้ทั่วโลกเป็นเพียงการบริหารจัดการความเสี่ยงจากการลงทุนเท่านั้น

นายวิสิฐกล่าวอีกว่า การเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศของกบข. ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะต้องรอดูทิศทางของดอกเบี้ยก่อน โดยเชื่อว่าหลังจากนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในช่วงปลายปีทำให้ตราสารหนี้ที่ถืออยู่มีผลตอบแทนมากขึ้น ส่วนผลกระทบจากปัญหาซับไพรม์ก็จะลดความรุนแรงลงด้วยเช่นกัน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% ในช่วงที่ผ่านมา

"การลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศในช่วงปลายปีนี้ คงต้องรอดูปัจจัยทิศทางดอกเบี้ยขาลงก่อน ซึ่งเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยคงลดดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งจะส่งผลต่อตราสารหนี้ที่ถืออยู่น่าจะทำกำไรได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้หลังจากที่ เฟด ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 4.75% โดยส่วนตัว เชื่อว่าการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดครั้งนี้ จะช่วยพยุงเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งได้ผลกระทบจากสินเชื่อสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ(ซับไพรม์) ได้พอสมควร"นายวิสิฐกล่าว

ทั้งนี้ กบข.ยังอยู่ในระหว่างการยื่นขอเพิ่มวงเงินลงทุนในต่างประเทศจากกระทรวงการคลัง จากพอร์ตการลงทุนในปัจจุบันที่ 15% เป็น 25% หรือคิดเป็นเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นมากอีกประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยมีการคาดการณ์ว่าในจะได้รับการอนุมัติวงเงินดังกล่าวในเร็วๆ นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น