“การเก็บออมมีประโยชน์ต่อทุก ๆ คนไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือจะประกอบธุรกิจส่วนตัวก็ตาม ซึ่งมันจะสามารถสร้างความมั่นใจเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ เงินที่เราเก็บออมมันจะมีความสำคัญมาก ๆ นอกจากนี้เงินที่เก็บออมมันจะเป็นอนาคตที่ดีในภายภาคหน้าให้กับเราด้วย”
ชื่อ นามสกุล ไอศูรย์ วาทยานนท์
วันเดือนเกิด 2 มีนาคม –
จบการศึกษา ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์
ปริญญาโท จาก OKLAHOMA CITY UNIVERSITY
สาขาสื่อสารมวลชน
ผลงานปัจจุบัน D.J. คลื่น106 LATTE
ผู้จัดการคุยกับนักลงทุนฉบับต้อนรับปีใหม่วันนี้เราได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์อดีตหนึ่งในนักร้องนำวงแกรนเอ็กซ์นามว่า โอ๋ - ไอศูรย์ วาทยานนท์ ซึ่งวันนี้โอ๋จะบอกถึงเรื่องของการใช้จ่ายเงิน การออมเงินที่ให้มีไว้ใช้ในอนาคตโดยไม่ต้องพึงพาใคร ซึ่งถ้าใครอ่านแล้วจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันบ้างก็ไม่ว่ากัน
โดยครอบครัวของโอ๋ได้สอนเรื่องของการออมเงินมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก ๆ ว่า เวลาที่จะใช้จ่ายอะไรต้องให้รู้จักประหยัด เมื่อกลับจากโรงเรียนทุกครั้งจะต้องกลับมาหยอดกระปุกรูปตัวม้าทุก ๆ วัน และวันหนึ่งเมื่อกระปุกออมสินเต็มโอ๋ก็จะนำสตางค์จากกระปุกรูปตัวม้าไปฝากยังธนาคารศรีนคร ซึ่งเป็นธนาคารแห่งแรกของชีวิตโอ๋ โดยสาเหตุที่ต้องเป็นธนาคารศรีนครในช่วงนั้น เนื่องจากคุณตาทำงานอยู่ที่ธนาคารแห่งนี้ และทุกวันโอ๋จะต้องรีบหยอดกระปุกเพื่อที่จะให้เต็มจะได้นำเงินไปฝากยังธนาคาร และเพื่อที่จะได้เจอกับคุณตาด้วย
พอเริ่มเป็นวัยรุ่นเข้าสูมัธยมปลายทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมพิเศษภายใต้โรงเรียน ซึ่งนักเรียนแต่ละกลุ่มจะต้องทำกิจกรรมร่วมกัน โดยกลุ่มของโอ๋ได้ร่วมกันทำสติ๊กเกอร์รูปแบบต่าง ๆ นำมาขายในกับนักเรียนภายในโรงเรียน ซึ่งเงินทั้งหมดที่ได้ก็นำไปเข้าชมรมหมดทุกบาททุกสตางค์ แต่ในตอนนั้นมีความรู้สึกภูมิใจ และตื่นเต้นมาก เพราะมันเหมือนเป็นเงินก้อนแรกที่เราสามารถหามาได้ด้วยตัวเอง
หลังจากนั้นชีวิตก็ได้หันเหเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นหนุ่มแพรว รายได้ก็เริ่มเข้ามาเรื่อย ๆ จากการถ่ายแบบปกหนังสือบ้าง เดินแฟชั่นโชว์บ้าง ซึ่งในช่วงนั้นโอ๋ได้ทำการจัดสรรรายได้ไว้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวในแต่ละเดือนไว้ประมาณ 70% และที่เหลืออีก 30% โอ๋จะนำไปฝากธนาคารซึ่งเป็นการฝากประจำ ซึ่งการจัดสรรเงินดังกล่าวส่งผลมาจนถึงทุกวัน
โดยโอ๋บอกว่า การเก็บออมนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น มีประโยชน์ต่อทุก ๆ คนไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือจะประกอบธุรกิจส่วนตัวก็ตาม ซึ่งมันจะสามารถสร้างความมั่นใจเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ เงินที่เราเก็บออมมันจะมีความสำคัญมาก ๆ นอกจากนี้เงินที่เก็บออมมันจะเป็นอนาคตที่ดีในภายภาคหน้าให้กับเราด้วย ซึ่งถ้าบางครั้งต้องการที่จะมีธุรกิจเป็นของตนเองก็จะได้จากการเก็บออมในส่วนตรงนี้ได้ หรืออาจจะเก็บไว้ให้คนที่เรารักอย่างคุณพ่อ คุณแม่ไว้ใช้ในยามจำเป็นก็ได้
นอกจากนี้โอ๋ยังเล่าให้เราฟังอีกว่า ครั้งหนึ่งเคยมีเพื่อนช่วยให้เล่นหุ้น แต่มีความรู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับตัวเอง เพราะมันต้องตามสถานการณ์ของการขึ้น การลงของหุ้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกว่ามันเครียดพอสมควร เลยไม่คิดที่จะเล่น เนื่องจากเราต้องทำงานอยู่ในวงการบันเทิงจึงไม่มีเวลาทุ่มเทให้เท่าที่ควร นอกจากนี้แล้วยังได้เห็นตัวอย่างจากคุณน้าของตัวเองเล่นหุ้นด้วย ที่ต้องตามความผันผวนของหุ้นอยู่ตลอดเวลาจนบางครั้งไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง เพราะการเล่นหุ้นมันต้องทุ่มเทให้เวลากับมันพอสมควร
ปัจจุบันโอ๋เป็นดีเจอยู่คลื่น 106 เป็นคลื่นเพลงแนวอีซี่ลิสเซินนิ่ง ที่มีทั้งเพลงไทยและเพลงสากล และได้ทำธุรกิจกับครอบครัวเป็นการทำสวนผลไม้อยู่ที่จังหวัดนครปฐม โดยสวนดังกล่าวได้ปลูกลำไยไว้ขายเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยความที่ลำไยจะออกเฉพาะหน้าของมันเท่านั้น ทางครอบครัวจึงเล็งเห็นที่จะเปลี่ยนจากการปลูกลำไยมาเป็นการปลูกมะม่วงแทน เพราะมะม่วงสามารถกินได้ทุกฤดูการ
และจากการทำงานของโอ๋ที่ผ่านมามากมายในวงการบันเทิง ทำให้ได้รับประสบการณ์ในการทำงานที่ดีเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการที่เราจะได้พบเจอกับคนที่หลากหลายทำให้เรารู้จักการปรับตัวเข้ากับคนหมู่มาก ส่วนในเรื่องของการเป็นนักร้อง เราจะได้ในส่วนของการเอ็นเตอร์เทรนคนดูอย่างไรให้มีความสุขไปกับ และทำให้เรารู้จักเพลงมากขึ้น และในส่วนของการเป็นดีเจ มันทำให้เราต้องมีความกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้แล้วในบางครั้งยังต้องติดตามสถานการณ์เหตุบ้านการเมืองในแต่วันด้วย เพื่อในบางครั้งเราต้องมีการพูดให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งมันต้องตามให้ทัน
นอกจากนี้แล้วครั้งหนึ่งโอ๋เคยเป็นผู้ประกาศข่าวอยู่ที่ช่อง 11 ซึ่งจะเป็นการอ่านข่าวทั่วไป ซึ่งจริง ๆ แล้วโดยส่วนตัวเป็นคนชื่นชอบในเรื่องของการกีฬา จึงอยากอ่านข่าวกีฬามาก แต่ทางผู้ใหญ่เห็นว่าบุคลิกของเราเหมาะกับการอ่านข่าวทั่วไปมากกว่าจึงให้อ่านข่าวทั่วไป จากการทำงานเป็นผู้ประกาศข่าวถือว่าเป็นการทำงานที่ตรงกับสายอาชีพที่ร่ำเรียนมา และถือว่าเป็นอาชีพที่ชื่นชอบอีกอาชีพหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะทำให้เรารู้ถึงสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา
จากการทำงานที่ผ่านมาโอ๋จะยึดหลักในการทำงานคือ การทำงานทุกครั้งจะต้องทำให้เต็มที่ ซึ่งในบางครั้งจากการทำงานก็ต้องมีอุปสรรคบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นบทเรียนที่จะต้องนำมาปรับใช้ในงานต่อ ๆ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นอีก นอกจากนี้แล้วเมื่อเราได้รับโอกาสจากการทำงานอะไรก็แล้วแต่จากผู้ใหญ่ที่หยิบยื่นให้จะไม่มีการปฎิเสธ ซึ่งจะรับทำงานทุกอย่างเพราะถือว่ามันเป็นประสบการณ์จากการทำงานที่น้อยคนนักอาจจะไม่ค่อยได้รับเหมือนอย่างเราก็ได้
โอ๋ ได้บอกส่งท้ายกับเราว่า โดยปกติแล้วจะเป็นคนจริงจังกับงานพอสมควร ในบางครั้งก็จะมีบ้างที่เกิดความเครียดกับการทำงาน แต่สิ่งที่ดีที่สุดในการปลดปล่อยคลายเครียดนั้นคือการออกกำลังกาย ซึ่งทุก ๆ วันจันทร์ และวันพฤหัส ฯ ก็จะไปตีแบต ฯ กับน้อง ๆ ที่บริษัทด้วย และนอกจากนี้การฟังเพลงก็ถือได้ว่าเป็นการผ่อนคลายได้อย่างหนึ่งด้วย