ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจภาค 7 เร่งคลี่คลายคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ชาวต่างชาติถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในบ้านพัก พบพิรุธหลายจุด ก่อนรวบภรรยาชาวไทยพร้อมพวกร่วมก่อเหตุ สารภาพใช้เหล็กแป๊บทุบศีรษะหวังอำพรางคดี
วันนี้( 24 ธ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เป็นประธานแถลงข่าวคลี่คลายคดีฆาตกรรมนายแพทย์ชาวเยอรมัน อายุ 65 ปี โดยมี พล.ต.ต.อาทร ชิ้นทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมแถลงข่าว
พล.ต.ต.ประสพชัย เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 12.00 น. สภ.คลองวาฬ รับแจ้งพบศพ MR. MARKS SOREN หรือ นายมาร์ค โซเรน อายุ 65 ปี สัญชาติเยอรมัน อาชีพแพทย์ นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน บ้านเลขที่ 392/1 หมู่ 10 ตำบลห้วยทราย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบและชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ก่อนส่งศพไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
ทั้งนี้ พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้กำชับให้เร่งรัดคลี่คลายคดี โดยระดมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานและจับกุมผู้ต้องหาได้ภายในเวลาไม่กี่วัน สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว
ด้าน พล.ต.ต.อาทร ชิ้นทอง เปิดเผยว่า คดีนี้พบพิรุธหลายประการ ลักษณะพยายามจัดฉากให้ดูเหมือนผู้ตายเสียชีวิตจากโรคประจำตัว โดยวันพบศพ ภรรยาชาวไทยของผู้ตาย ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เดินทางมาพร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เข้าแจ้งความต่อ สภ.คลองวาฬ ว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าคล้ายศพออกมาจากบ้านพัก แต่ไม่กล้าเข้าไปตรวจสอบด้วยตนเอง
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบศพอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วเกือบหนึ่งเดือน ไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้ในเบื้องต้น อีกทั้งยังพบว่าเอกสารประจำตัว โทรศัพท์มือถือ และกล้องวงจรปิดภายในบ้านจำนวน 4 ตัวหายไป ภรรยาผู้ตายอ้างว่าสามีเสียชีวิตจากโรคประจำตัว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงเก็บรวบรวมวัตถุพยานส่งตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2568 แพทย์สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ รายงานผลการผ่าชันสูตร พบว่าผู้ตายถูกทำร้ายด้วยของแข็งไม่มีคม บริเวณกะโหลกศีรษะ ใบหน้า ขากรรไกรบนและล่างแตก แขนขวาหัก และหน้าผากแตกยุบกดสมอง เสียชีวิตจากการถูกทำร้ายอย่างรุนแรงหลายครั้ง
จากการสืบสวน พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 3 ราย และสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 ได้แก่ น.ส.นิตทยา สุขใส อายุ 45 ปี ภรรยาผู้ตาย นายทองใบ ธัมมา หรือ “ทอม” อายุ 43 ปี ลูกจ้างทำไร่ น.ส.เนาวรัตน์ ปาวรีย์ อายุ 50 ปี ภรรยานายทองใบ โดยผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น
ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ผู้ตายเดินทางมาถึงประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงหลังเที่ยงคืนวันที่ 23 พ.ย. 68 ก่อนถูกพามายังบ้านเกิดเหตุ จากนั้นช่วงเช้ามืด นายทองใบ ใช้เหล็กแป๊บทุบศีรษะผู้ตายขณะหลับ และทำร้ายซ้ำจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ และจัดฉากแจ้งเหตุภายหลัง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเหตุไปยังสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีแล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ตาย ซึ่งมีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองวาฬ ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยย้ำว่าจะดำเนินการอย่างรอบคอบและเข้มงวด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่


