เชียงราย - ป.ป.ส.นำทีมแกะรอยจับ ทั้งคนไทย-พม่า ขนไอซ์และคีตามีน จากฝั่งเมียนมาเข้าไทย..เผยตัวการใหญ่อยู่ท่าขี้เหล็ก เปิดไลน์กลุ่มสั่งการเช่าบ้าน-เปลี่ยนป้ายทะเบียนนำรถข้ามแดนขนเป็นทอดๆ
วันนี้ (24 ธ.ค.) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.),พ.ต.ท.นริช สอนดิษฐ ผอ.ปปส.ภ.5,ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก,ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย,หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดภาคเหนือ (นบ.ยส.35) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.5 และ ภ.จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมือง ฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน ด่านศุลกากรเชียงแสน,ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 4 คน
คือนายสาคร อายุ 54 ปี และ น.ส.ประภัสสร อายุ 33 ปี ทั้งคู่เป็นชาว อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ,นายไซ วุน อายุ 34 ปี ชาว จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และนายไซ เซา ติ๊บ อายุ 21 ปี ชาวไทใหญ่ อาศัยอยู่ที่เมืองเชียงตุง ประเทศเมียนมา
หลังจากวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.สังกัด ปป.2 ได้รับแจ้งว่าจะมีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ป้ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ ขึ้นไปลักลอบขนยาเสพติดที่ชายแดนด้าน จ.เชียงราย จึงได้ออกติดตามกระทั่งพบรถคันดังกล่าวขับไปตามถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย ก่อนเข้าพักที่บ้านหลังหนึ่งพื้นที่หมู่ 9 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จากนั้นได้เปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนเป็นของประเทศเมียนมา หมายเลข 7J 3104 แล้วขับข้ามแดนไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
บ่ายวันเดียวกันได้ขับกลับมาฝั่งไทยกลับเข้าไปในบ้านหลังเดิมเพื่อเปลี่ยนเป็นป้ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ เหมือนเดิม โดยมีคนขับขี่รถจักรยานยนต์คอยขับนำ ไปตามถนนสายแม่สาย-เชียงแสน มุ่งหน้าไปทาง อ.เชียงแสน โดยมีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีทอง ป้ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ ขับตามและสลับขึ้นนำเป็นครั้งคราว
เมื่อถึงพื้นที่หมู่ 1 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน ได้แวะเข้าไปบ้านหลังหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าไปปิดล้อมตรวจค้นก็พบผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ภายในและพบที่ห้องเก็บของชั้นล่างของบ้าน รวมทั้งช่องลับท้ายกระบะรถคันแรกซุกซ่อนยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 120 ก้อน และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) จำนวน 120 กิโลกรัม จึงได้จับกุมทั้งหมดเอาไว้
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าหัวหน้าใหญ่ของขบวนการนี้ชื่อนายพัดอาศัยอยู่ที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้ร่วมนายโทนี่ไม่ทราบชื่อและสัญชาติ เปิดกลุ่มไลน์สั่งการขนยาเสพติด โดยให้ทั้งหมดเช่าบ้านเดือนละ 25,000 บาท และให้ผู้ต้องหาชาวเมียนมาทั้ง 2 คนอยู่เฝ้า-คอยขับรถจักรยานยนต์นำทา งรวมทั้งคอยเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์เพื่อให้ข้ามไปฝั่งเมียนมาได้ จากนั้นได้ซุกซ่อนยาเสพติดแล้วขับกลับมาฝั่งไทยเพื่อรอจะขนเข้าสู่ชั้นในของประเทศ
เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาทั้งหมดว่า “ร่วมกันหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน หรือเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ” และ “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย.


