xs
xsm
sm
md
lg

กรมอุทยานฯ ชี้ “เสือโคร่งกาญจนบุรี” เป็นเสือเลี้ยง ไม่ใช่เสือป่า ส่วน สิงโต-หมีตราด ไร้คนแสดงตัว เตรียมสืบสวนเอาผิดถึงที่สุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพชรบุรี - อธิบดีกรมอุทยานฯ เผยผลตรวจ DNA เสือโคร่งที่ยึดได้ในกาญจนบุรี พบเป็นเสือเลี้ยงจากขบวนการเพาะเลี้ยงผิดกฎหมาย ไม่ใช่เสือป่า ขณะที่สิงโต-หมีตราดยังไร้เจ้าของมาแสดงตัว เตรียมขยายผลสืบสวนดำเนินคดีถึงที่สุด พร้อมเดินหน้าคุมเข้ม “ไลเกอร์-ไทกอน” สัตว์ลูกผสมเสือ-สิงโต ให้ขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ป่าควบคุม

วันนี้ ( 24 ธ.ค.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครองในหลายพื้นที่ ทั้งกรณีเสือโคร่งที่ จ.กาญจนบุรี และการตรวจยึดสิงโต 2 ตัว และหมี 3 ตัว ที่ จ.ตราด ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพสัตว์เป็นอันดับแรก ซึ่งล่าสุดสุขภาพของสิงโตและหมีที่ตราดดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงเย็นของวันนี้ เจ้าหน้าที่จะเคลื่อนย้ายหมีไปดูแลต่อที่สถานีเพาะเลี้ยง จ.ราชบุรี ส่วนสิงโตจะนำไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงบางละมุง จ.ชลบุรี ทั้งนี้ ปัจจุบันยังไม่มีผู้ใดออกมาแสดงตนเป็นเจ้าของสัตว์ทั้ง 5 ตัว โดยกรมอุทยานฯ เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีเอกสารการครอบครองถูกต้องตามกฎหมายมาแสดงตัว หากไม่มีผู้ใดมาแสดงตน ทางกรมฯ จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ขณะที่สัตว์ของกลางจะถูกยึดไว้เพื่อดูแลรักษาต่อไป

ส่วนกรณีเสือโคร่งที่ตรวจยึดได้ใน จ.กาญจนบุรี ล่าสุดมีการตรวจ DNA พบว่าไม่ใช่เสือป่า แต่เป็นเสือเลี้ยงจากขบวนการเพาะเลี้ยงผิดกฎหมาย เชื่อว่าเป็นการเพาะเลี้ยงแล้วนำออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงขั้นตอนการประสานนำเสือไปดูแลกับมูลนิธิแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบุรี ซึ่งต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย โดยกรมอุทยานฯ ได้ยึดเสือเป็นของกลาง และอยู่ระหว่างสืบสวนหาผู้ครอบครองที่แท้จริง รวมถึงตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่

นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังกล่าวถึงกรณีการครอบครองสัตว์ลูกผสมระหว่างเสือกับสิงโต หรือ “ไลเกอร์” และ “ไทกอน” ซึ่งถือเป็นสัตว์ดุร้ายที่อาจก่ออันตรายต่อประชาชน หากไม่มีการควบคุมที่เหมาะสม กรมอุทยานฯ จึงเตรียมผลักดันให้จัดระเบียบและออกกฎหมายให้สัตว์ลูกผสมดังกล่าวอยู่ภายใต้การขึ้นทะเบียนเป็น “สัตว์ป่าควบคุม” เพื่อกำหนดมาตรฐานการเลี้ยงดู การครอบครอง และการเคลื่อนย้ายต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมาย พร้อมทั้งควบคุมไม่ให้มีการเพาะเลี้ยงหรือนำเข้าเกินความจำเป็นในอนาคต










กำลังโหลดความคิดเห็น