พระนครศรีอยุธยา – เกิดเหตุทาวน์เฮาส์ชั้นเดียวทรุดตัว 3 หลังติดกัน ภายในหมู่บ้านจัดสรร ต.คลองจิก อ.บางปะอิน อยุธยา พื้นบ้านยุบลึกกว่า 50 ซม. ผนังแตกร้าว โชคดีผู้เช่ารู้ตัวหนีทัน ไม่มีผู้บาดเจ็บ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ พร้อมกั้นพื้นที่เป็นเขตอันตราย
วันนี้( 23 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเกิดเหตุบ้านพักอาศัยทรุดตัวจำนวน 3 หลัง ภายในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 2 ตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ชั้นเดียวปลูกติดกันหลายหลัง ตั้งอยู่ริมถนนอุดมสรยุทธ์ หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 308 ด้านหลังติดกับแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน โดยบ้านที่ได้รับความเสียหายจำนวน 3 หลัง ซึ่งปลูกติดกัน พบว่าพื้นภายในบ้านทรุดตัวลึกลงไปประมาณ 50 เซนติเมตร ผนังบ้านแตกร้าว ตัวอาคารและโครงหลังคาทรุดเอียง
จากการตรวจสอบพบว่า บ้าน 2 หลังได้มีการขนย้ายทรัพย์สินออกไปแล้ว ส่วนอีก 1 หลังยังไม่สามารถขนย้ายทรัพย์สินได้ทั้งหมด ทั้งนี้ขณะเกิดเหตุโชคดีที่ผู้เช่าบางหลังรู้ตัวหนีออกมาได้ทัน ขณะที่บางหลังไม่มีผู้อยู่อาศัย โดยบ้านทั้ง 3 หลังเป็นบ้านเช่า
ต่อมา นายอภิชาติ พรรณวิเชียร นายกเทศมนตรีตำบลคลองจิก พร้อมด้วย นางชมพู่ เพลัย ปลัดเทศบาลตำบลคลองจิก ปลัดอำเภอบางปะอิน เจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลคลองจิก ลงพื้นที่ตรวจสอบและกั้นพื้นที่เป็นเขตอันตราย ห้ามประชาชนเข้าใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ
นางสาวสายฝน อายุ 42 ปี ผู้เช่าบ้านหลังแรกที่ทรุดตัว เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันที่ 22 ธันวาคม ก่อนออกไปทำงาน ได้ยินเสียงดังคล้ายมีคนทุบกำแพงบ้าน แต่คิดว่าบ้านข้างเคียงกำลังซ่อมแซม ต่อมาช่วงเย็นแฟนถ่ายภาพส่งมาให้ดู พบว่าผนังบ้านเริ่มแตกร้าว จึงแจ้งให้เจ้าของบ้านทราบ และพบว่ารอยร้าวขยายตัวอย่างต่อเนื่อง กระทั่งช่วงกลางดึกพื้นบ้านเริ่มยุบตัว จึงรีบขนย้ายทรัพย์สินออกมาบางส่วน
“ตอนแรกยังกางเต็นท์นอนหน้าบ้าน แต่ได้ยินเสียงพื้นเคลื่อนตัวตลอด จึงย้ายไปอยู่บ้านเพื่อน ก่อนจะพบว่าบ้านทรุดลงไปจริง โชคดีที่รู้ตัวก่อน เพราะจุดที่ทรุดเป็นห้องนอน เพิ่งเช่าอยู่ได้ประมาณ 1 ปี ถือว่าเคราะห์ดีรับปีใหม่” นางสาวสายฝนกล่าว
ด้าน นางสาววิไล อายุ 50 ปี เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ติดกับจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า รู้สึกกังวลอย่างมาก เกรงว่าบ้านของตนจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากตัวบ้านและหลังคาปลูกติดกัน แม้ขณะนี้พื้นบ้านยังไม่ทรุด แต่ก็หวาดกลัวว่าจะต้องย้ายออกโดยไม่รู้จะไปพักอาศัยที่ใด
นายอภิชาติ พรรณวิเชียร นายกเทศมนตรีตำบลคลองจิก เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุประมาณเวลา 02.00 น. จึงพร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันที และสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากสภาพพื้นที่มืดและมีความเสี่ยงสูง ก่อนจะรอให้วิศวกรจากโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดในช่วงเช้า
เบื้องต้นพบว่ามีรอยแตกร้าวเตือนมาก่อน ทำให้ผู้เช่าสามารถขนย้ายทรัพย์สินออกมาได้ทัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุของการทรุดตัวยังต้องรอผลสรุปจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง โดยได้ประกาศกั้นพื้นที่เป็นเขตอันตราย และเจ้าของบ้านจะดำเนินการรื้อถอนอาคารที่ทรุดตัวเพื่อป้องกันอันตรายซ้ำ


