ศูนย์ข่าวขอนแก่น-จังหวัดขอนแก่นผนึกกรมราชทัณฑ์ จู่โจมตรวจค้นหายาเสพติด และสิ่งของผิดกฎหมายภายในเรือนจำขอนแก่น ไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งของต้องห้าม ทั้งสุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขังชาย 82 คน ผู้ต้องขังหญิง 30 คน ไม่พบสิ่งผิดปกติ
วันนี้ (22 ธ.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. ที่เรือนจำกลางขอนแก่น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายไพรัตน์ ขมินทกูล ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น, บก.ตชด.ภ.2, กองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.ขอนแก่นที่ 1, มทบ.23, ปปส.ภ.4 และชุดปฎิบัติการพิเศษเรือนจำกลางขอนแก่น เข้าจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษ รวมทั้งหมด 19 จุดภายในเขตเรือนจำกลางขอนแก่น ตามนโยบายของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม
กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 240 นายได้เข้าจู่โจมตรวจค้นพร้อมกันทุกจุด โดยได้ให้ผู้ต้องขังทุกคนลุกจากที่นอน ทำการตรวจนับยอดคุมขังในแต่ละแดน ก่อนที่จะตรวจค้นร่างกายของผู้ต้องขัง เรือนนอน และพื้นที่ภายในเรือนจำทั้งหมด รวม 19 จุด โดยนำผู้ต้องขังทั้งหมดมารวมตัวกันที่จุดรวมกลาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นอย่างละเอียด
นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า กำลังเจ้าหน้าที่รวม 240 นายได้ตรวจค้นภายในเรือนจำกลางขอนแก่น ทั้ง 19 จุด ซึ่งไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย ยาเสพติดหรือสิ่งของต้องห้ามใดๆ การปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการตรวจค้นกรณีพิเศษ ควบคู่กับการตรวจเข้มของเรือนจำอยู่แล้ว ขณะเดียวกันยังคงสุ่มตรวจปัสสาวะ ผู้ต้องขังชาย 82 คนและหญิง 30 คน ซึ่งก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
“การจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษ ที่เรือนจำกลางขอนแก่นวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิบัติที่ทางจังหวัดร่วมกับกรมราชทัณฑ์ ได้ให้ความสำคัญและกำหนดจัดให้ปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นหายาเสพติด และสิ่งของผิดกฎหมายอื่นๆภายในเรือนจำ เพื่อเฝ้าระวัง สกัดกั้น และป้องกัน การลักลอบใช้เรือนจำเป็นแหล่งค้ายาเสพติด รวมถึงเป็นสถานที่ที่กระทำผิดกฎหมายอื่นๆได้”
ขณะที่นายไพรัตน์ ขมินทกูล ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น กล่าวว่า การตรวจค้นของเรือนจำจะดำเนินการทุกวันและทุกสัปดาห์ และการจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงจะดำเนินการร่วม 2 ครั้งต่อปี ซึ่งถือเป็นแผนการปฏิบัติครั้งใหญ่ เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสและตอกย้ำถึงมาตรการ
กรมราชทัณฑ์ได้สั่งการให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมถึงแก้ไขปัญหาการตรวจพบการกระทำผิดเกี่ยวกับสิ่งของต้องห้าม และสิ่งของไม่อนุญาต ควบคู่กับนโยบายของทางจังหวัดในการป้องกันปราบปราม แก้ไขปัญหายาเสพติดอีกด้วย


