ตราด- กอ.รมน.ตราด ร่วมตำรวจบุกคุมตัวครอบครัวชาวเขมรอาศัยในพื้นที่บ้านแหลมหิน พฤติกรรมต้องสงสัยเป็นสายลับ มีลูกเขยเป็นตำรวจฝั่งกัมพูชา ยศ พ.ต.ท.เพิ่งแต่งงานกับลูกสาวเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พิรุธหนักแต่งเสร็จกลับทันที โทรศัพท์มือถือมีการลบข้อมูล ยึด4เครื่องตรวจสอบ
เมื่อเวลา 17:50 น.วันนี้ ( 15 ธ.ค.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาญาจักรจังหวัดตราด (กอ.รมน.จว.ตราด) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองตราด ได้บุกเข้าจับกุมครอบครัวชาวเขมรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านแหลมหิน ต.หนองคันทรง อ. เมืองตราด หลังพบประวัติครอบครัวมีลูกเขยเป็น ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน ฝั่งกัมพูชา และเข้าข่ายต้องสงสัยว่าอาจจะเป็นสายลับให้กับฝั่งกัมพูชา
จากการเข้าตรวจสอบภายในบ้านและค้นหาหลักฐานยังไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่เจ้าหน้าที่ได้ยึดโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่องไว้ตรวจสอบ
ขณะที่บ้านหลังดังกล่าวมีผู้อยู่อาศัยรวม 4 คนคือ นายจันทรา แง๊ด อายุ 44 ปี, น.ส.จันรียา เม อายุ 41 ปี, ด.ช.อายุ 6 เดือน และ น.ส.ราญา แงด อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของ พ.ต.อ.โสต ซ็อมโอล ผบ.พัน.ตชด. 823 ดูแลฝั่ง อ.สำรูด จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา (พื้นที่ติดต่อกับบ้านม่วง ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ จ.ตราด)
เบื้องต้นทั้งหมดมีบัตรประจำตัวแต่ไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู , เด็กมีบัตรสุขภาพต่างด้าว) เจ้าหน้าที่จึงควบคุมไว้ตามกฎอัยการศึก และจะได้ทำการสอบปากคำ
อย่างไรก็ตาม น.ส.ราญา ให้ข้อมูลว่าตนเองได้เข้ามาอาศัยอยู่ใน จ.ตราด ตั้งแต่อายุเพียง 2 ขวบและเรียนหนังสือที่ จ.ตราด มาตั้งแต่เล็กและไม่เคยไปไหน และยังบอกอีกว่าตนเองทำงานอยู่ที่ร้านใน ต.หนองคันทรง
โดยยอมรับรู้จักกับ พ.ต.อ.โสต ซ็อมโอล มานานแล้วและเพิ่งแต่งงานกันเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2568 แต่อ้างว่าไม่เคยรู้ว่าสามีทำงานที่ใด อีกทั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างไทย-กัมพูชา ก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย ทำได้เพียงโทรศัพท์พูดคุยกันตามปกติทุกวัน และไม่เคยพูดถึงเรื่องชายแดน
และพร้อมให้ตรวจสอบทุกอย่าง โดยอ้างว่าตนเองบริสุทธิ์ และไม่ได้เป็นสายลับให้ใคร รวมทั้งไม่เคยส่งที่ตั้งทางทหารของไทยให้ฝั่งกัมพูชา
จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ น.ส.ราญา แงด พบว่ามีการพูดคุยกับ พ.ต.อ.โสต ทุกวัน และส่วนใหญ่ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายโทรหา แต่ก็มีสิ่งผิดสังเกตคือ พบประวัติการลบข้อความบางส่วนทิ้ง ซึ่ง น.ส.ราญา อ้างว่าทะเลาะกับฝ่ายชายเพราะคิดว่าอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ด้วยความโมโหจึงบล็อกไลน์ และลบข้อความในโทรศัพท์
แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจึงแจ้งว่า ต้องใช้กฎอัยการศึก ในการควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยเฉพาะ น.ส.ราญา แงด ว่ามีพฤติกรรมเป็นสายลับหรือไม่ ซึ่งการสอบปากคำจะมี ทหารนาวิกโยธินตราด ร่วมด้วย


