พระนครศรีอยุธยา - บรรยากาศโศกเศร้าที่อยุธยา ขบวนเคลื่อนร่างวีรบุรุษทหารกล้า “จ.ส.อ.ดำรงเกียรติ แก้วกระจ่าง” ถึงบ้านเกิด ทหารกองเกียรติยศตั้งแถวรับสมเกียรติ ภรรยาเผยคำสัญญาสุดท้ายจะกลับมาอยู่กับครอบครัว พาลูกไปเที่ยวทะเล แต่ไม่ทันได้ทำ
บ่ายวันนี้ (14 ธ.ค.) ขบวนเคลื่อนร่างของวีรบุรุษทหารกล้า จ่าสิบเอก ดำรงเกียรติ แก้วกระจ่าง สังกัดกองพันจู่โจม จังหวัดลพบุรี ซึ่งพลีชีพจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย บริเวณเนิน 677 ช่องอานม้า เดินทางมาถึงวัดหลวงพ่อเขียว ตำบลบ้านแพรก อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่ามกลางความอาลัยของญาติ ทหาร และประชาชนจำนวนมาก
ทหารกองเกียรติยศจากกองพันจู่โจม จังหวัดลพบุรี พร้อมข้าราชการและประชาชน ตั้งแถวรับร่างอย่างสมเกียรติชายชาติทหาร ขณะที่ตลอดเส้นทางเคลื่อนย้ายศพจากสนามบินดอนเมืองมายังวัด มีประชาชนยืนไว้อาลัยและโบกธงชาติไทยตลอดทาง
บรรยากาศภายในศาลาวัดหลวงพ่อเขียวเต็มไปด้วยความโศกเศร้า นายตี๋ แก้วกระจ่าง อายุ 67 ปี บิดา นางรวีวรรณ แก้วกระจ่าง อายุ 65 ปี มารดา นางสาวสุนีย์ โตปานวงศ์ อายุ 43 ปี ภรรยา พร้อมบุตรสาวและญาติ อยู่ในอาการเสียใจอย่างสุดซึ้ง โดยบุตรสาวนั่งเช็ดรูป หอมแก้มภาพถ่ายของบิดาด้วยความคิดถึง พร้อมเขียนข้อความอำลาลงบนรูป
นางสาวสุนีย์ โตปานวงศ์ ภรรยา เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. มีรุ่นพี่ของสามีติดต่อมาขอชื่อ-นามสกุลและเบอร์ติดต่อ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากทราบจากข่าวว่าพื้นที่ที่สามีปฏิบัติหน้าที่มีการปะทะรุนแรง แต่ก็ยังไม่อยากเชื่อ จนกระทั่งผู้บังคับบัญชาโทรศัพท์แจ้งข่าว จึงยอมรับความจริงเมื่อได้เห็นร่างของสามีด้วยตนเอง
ภรรยาระบุว่า สามีจะติดต่อมาทุกครั้งเมื่อมีสัญญาณ หากขึ้นเขาหรือพื้นที่ไม่มีสัญญาณก็จะเดินลงมาคุย วันที่ 7 ธ.ค. เป็นการคุยกันครั้งสุดท้าย โดยสามีบอกว่าจะมีการรบ อาจไม่ได้ติดต่อกัน ขอคุยกับลูก และกำชับให้ดูแลบ้าน ดูแลลูกให้ดี พร้อมบอกว่า หากมีอะไรให้รุ่นพี่เป็นผู้ติดต่อ
“เขาภูมิใจในอาชีพทหารมาก และเหมือนเตรียมใจไว้ตลอด เขามักบอกว่า ถ้าเขาเป็นอะไรไป ขอแค่งานศพสมเกียรติ และเชื่อว่าลูกเมียจะอยู่ได้” ภรรยากล่าว
ทั้งนี้ สามียังเคยสัญญาว่า หลังเสร็จภารกิจครั้งนี้จะไม่ไปไหนอีก จะพาครอบครัวไปเที่ยวทะเล และตั้งใจจะไม่ลงปฏิบัติหน้าที่ภาคใต้แล้ว แต่คำสัญญานั้นก็ไม่ทันได้ทำ
ด้านบุตรสาว ซึ่งยังไม่ทราบข่าวในตอนแรก เมื่อไปรับร่างที่สนามบินยังถามว่า “ทำไมพ่อนอนมา” โดยผู้เป็นแม่ได้บอกว่าพ่อพักผ่อน ก่อนที่เด็กหญิงจะรู้ความจริงในภายหลัง และบอกว่า “พ่อไม่ทำตามสัญญา” พร้อมวาดภาพให้กำลังใจพ่อ แต่ต้องเปลี่ยนข้อความเป็นคำอำลา เขียนที่วัดเพื่อสื่อสารถึงพ่อเป็นครั้งสุดท้าย
ขณะที่นางสาวจุไรรัตน์ แก้วกระจ่าง อายุ 30 ปี น้องสาว เปิดเผยว่า พี่ชายเป็นเสาหลักของครอบครัว ดูแลพ่อแม่ที่สุขภาพไม่แข็งแรง การรับราชการทหารเป็นความตั้งใจเพื่อดูแลครอบครัว และเป็นอาชีพที่รักมาตั้งแต่เด็ก พี่ชายเคยบอกเสมอว่า หากเสียชีวิตอยากมีธงชาติคลุมร่าง และไม่เคยอวดหรือเล่าถึงหน้าที่การงานให้ใครฟัง แม้กลับบ้านก็ทำเพียงช่วยกวาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ “วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นพี่ชายในชุดเต็มยศ
สำหรับกำหนดการบำเพ็ญกุศล จะมีการสวดพระอภิธรรมตั้งแต่วันที่ 14–17 ธันวาคม 2568 เวลา 17.00 น. และในวันที่ 18 ธันวาคม 2568 เวลา 16.00 น. จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างสมเกียรติ ณ วัดหลวงพ่อเขียว อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


