อุทัยธานี - วีรบุรุษทหารกล้าต้องได้อยู่ดีกินดี..นอภ.-อปท.เตรียมซ่อมแซมบ้านที่สุดทรุดโทรม รอรับพลทหารกล้าเหยื่อสะเก็ดระเบิดเขมร บาดเจ็บบนสมรภูมิภูมะเขือ กลับ ป้าเผย..หลานตั้งใจไปรบเพื่อชาติ ภูมิใจแม้ได้รับบาดเจ็บ
วันนี้(10 ธ.ค.68) นายอิสมะแอ การียา ปลัดอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี และนายอนุมาศ มาศทอง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไร่ ได้ร่วมเข้าตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวพลทหารปรมินทร์ สุวรรณโภชน์ หรือ ปอน อายุ 24 ปี ที่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 5 บ้านพุบอน ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี หลังเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ
โดยพบว่า สภาพบ้านของพลทหารปอน เก่าและทรุดโทรมอย่างมาก ผนังบ้านเป็นสังกะสีเก่าแผ่นต่อแผ่น หลังคารั่ว ห้องน้ำชำรุดจนแทบไม่สามารถใช้งานได้
ซึ่งเมื่อวานนี้ นายอำเภอบ้านไร่ พร้อมฝ่ายปกครอง หน่วยงานต่าง ๆ และคณะสงฆ์อำเภอบ้านไร่ ได้เข้าตรวจสอบเบื้องต้น และมีมติร่วมกันให้เร่งดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเพื่อให้พร้อมรองรับการพักฟื้นของพลทหารปอนเมื่อกลับมาบ้านเกิด
ดังนั้นในวันพรุ่งนี้(11 ธ.ค.) ช่างจากองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไร่จะเข้าวัดพื้นที่และประเมินวัสดุที่ต้องใช้ ก่อนเริ่มลงมือซ่อมแซมโดยเร็วที่สุด
ขณะเดียวกัน ชาวจังหวัดอุทัยธานีต่างร่วมแสดงความชื่นชมและแชร์เรื่องราวของพลทหารปอน ผู้ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นชายชาติทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญในการปกป้องประเทศท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดน
ด้านนางเถิง พรมมา อายุ 66 ปี ป้าของพลทหารปรมินทร์ เปิดเผยว่า หลานชายซึ่งรับราชการทหารตำแหน่งพลปืนเล็ก หมู่ ปล.มว.ปล.ร้อย.ร.421 พัน.ร.42 ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดบริเวณซี่โครงซ้าย จากอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายตรงข้ามในพื้นที่ภูมะเขือ ก่อนถูกนำส่งโรงพยาบาลกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งอาการปลอดภัยและรู้สึกตัวดี จากนั้นถูกส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
ล่าสุดแพทย์ได้ทำการเย็บแผลและอาการทั่วไปตอบสนองดี สามารถรับประทานอาหารได้แล้ว แต่ยังไม่ทราบกำหนดการออกจากโรงพยาบาล
นางเถิงเล่าว่า ตนเลี้ยงดูพลทหารปอนมาตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากบิดาเสียชีวิต และมารดาแยกย้ายไปมีครอบครัวใหม่ จึงดูแลร่วมกับยายของพลทหารปอน ครอบครัวมีฐานะยากจน แต่หลานมีความตั้งใจอยากเป็นทหารจึงสมัครเข้ารับราชการทางออนไลน์ที่ค่ายจีระประวัติ จังหวัดนครสวรรค์
กระทั่งเกิดสถานการณ์สู้รบชายแดนและถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บ ยายของพลทหารปอนได้ยืมเงินเพื่อนบ้านเพื่อเดินทางไปเยี่ยมหลานด้วยความเป็นห่วง แม้ครอบครัวจะมีฐานะลำบากก็ตาม
ทั้งนี้ พลทหารปอนได้โทรศัพท์บอกป้าตั้งแต่เมื่อวานว่า ผู้บังคับบัญชาดูแลอย่างใกล้ชิด และหลังผ่าตัดเสร็จจะเข้าพักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ก่อนส่งตัวมาฟื้นฟูต่อที่ค่ายจีระประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ หลังจากนั้นจึงจะกลับมาพักฟื้นที่บ้านเกิด ซึ่งคาดว่าจะสอดคล้องกับช่วงเวลาที่บ้านได้รับการซ่อมแซมเสร็จพอดี
และอีกหนึ่งความตั้งใจของพลทหารปอนคืออยากเห็นครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะเติบโตมาในความยากจน เขาจึงส่งเงินเดือนกลับมาช่วยเลี้ยงดูครอบครัวทุกเดือน พร้อมยืนยันว่าเมื่อร่างกายแข็งแรง จะขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับกองกำลังไทยเพื่อปกป้องชาติจากการรุกรานของฝ่ายกัมพูชา


