ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ตำรวจสืบสวนและชุดวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายเปิดบัญชีม้าและระบบการเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับผู้ต้องหา 4 คน ยึดสมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็ม และทรัพย์สินจำนวนมาก ยาเสพติด
พร้อมขยายผลเครือข่ายเปิดบัญชีม้า
วันนี้ (25 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.วงศกร วันชัย รักษาการผู้กำกับการสืบสวน กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น นำกำลังตำรวจสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น รวมถึงชุดวิเคราะห์ ศปอส.ภ.จว.ขอนแก่น ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมของกลางจำนวนมาก
ผู้ต้องหารายแรก คือนายสุรพงษ์ หรือ “ตาต้า” พลรักซ้าย อายุ 37 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 49/20 หมู่ 3 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ถูกแจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือเมทแอมเฟตามีน ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดประเภทเดียวกัน นอกจากนี้ยังถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมีไว้และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
ของกลางที่ยึดไว้ประกอบด้วย ยาบ้า 41 เม็ด สมุดบัญชีเงินฝาก 82 เล่ม บัตรกดเงินสดหรือบัตรเอทีเอ็ม 60 ใบ เงินสด 93,200 บาท โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง รถจักรยานยนต์ 2 คัน รถยนต์ 1 คัน และวัตถุคล้ายทองอีก 2 เส้น
ผู้ต้องหารายที่สอง คือนางสาวณัฐวรรณ หรือทราย ฤทธิทักษ์ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนายตาต้า ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันมีไว้และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
รายที่สาม คือนางสาวสาวิตรี หรือบิว กาบไกรแก้ว อายุ 27 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่ 6 ตำบลหนองใหญ่ อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน รวมถึงเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนเอง หรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งที่รู้หรือควรรู้ว่าอาจนำไปใช้ในการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอื่นใด
นอกจากนี้ยังถูกแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดประเภท 1 โดยฝ่าฝืนกฎหมาย โดยถูกจับได้พร้อมแฟนหนุ่มขณะกำลังเสพยาไอซ์ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองขอนแก่น
ส่วนผู้ต้องหารายที่สี่ คือนายสุริยา หรือบอล อุตะมา อายุ 32 ปี ที่อยู่ 55 หมู่ 6 ตำบลศรีสว่าง อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด ถูกจับในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยฝ่าฝืนกฎหมาย
พ.ต.อ.วงศกร วันชัย เปิดเผยว่าการจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งการให้เร่งปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการกระทำความผิดเกี่ยวกับ “บัญชีม้า” ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการหลอกลวงออนไลน์และส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง
ชุดสืบสวนและชุดวิเคราะห์ได้ดำเนินการสืบสวนติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับ นางสาวสาวิตรี หรือบิว จนพบตัวขณะอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยเมื่อสอบสวนขยายผล บิวให้การว่า รู้จักหญิงชื่อ “ปราง” ผ่านทางโซเชียล ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างให้หาคนทำหน้าที่กดเงินจากตู้เอทีเอ็ม และเปิดบัญชีม้า โดยจะให้รายได้ร้อยละ 1 ต่อรายการ จึงไปชักชวนเพื่อนชื่อนายตาต้าให้เป็นผู้กดเงินจากตู้เอทีเอ็มหลายแห่งในเขตตัวเมืองขอนแก่น และมีนางสาวทราย แฟนสาวของนายตาต้า ทำหน้าที่ดูบัญชีและหาคนมาทำบัญชีม้าให้ โดยแบ่งรายได้ร้อยละ 1 เช่นกัน
หลังได้ข้อมูล เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปยังบ้านพักของนายตาต้าและนางสาวทราย พบตัวพร้อมของกลางจำนวนมาก และตรวจสารเสพติดจากปัสสาวะ พบว่าทั้งคู่เสพยาเสพติด จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามพฤติการณ์ทั้งหมด ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที


