กาญจนบุรี - รมว.วัฒนธรรม ตรวจงานศาสนา–ศิลปะ–วัฒนธรรมในกาญจนบุรี ชูอัตลักษณ์ไทยทรงดำเป็นทุนวัฒนธรรมที่สร้างรายได้จริง พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเก่า และอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เดินหน้าผลักดัน “พลังวัฒนธรรม” สู่เศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
วันนี้ (22 พ.ย.) นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงการพัฒนาชุมชนเชิงวัฒนธรรมตามนโยบาย “ไท ไทย” ที่ตั้งเป้าผลักดัน “พลังวัฒนธรรม” ให้เกิด “รายได้จริง” และสร้างความยั่งยืนแก่ชุมชนท้องถิ่น
การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รับการต้อนรับจาก นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.กาญจนบุรี เขต 3 พรรคภูมิใจไทย, นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รอง ผวจ. รรท.ผวจ.กาญจนบุรี, นายฑรัท เหลืองสะอาด ปลัดจังหวัด รวมถึงข้าราชการและประชาชนจำนวนมาก
เวลา 09.00 น. รมว.วธ. เดินทางไปยัง วัดสระบ้านกล้วย อ.พนมทวน ซึ่งเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ไทยทรงดำ เพื่อหารือแนวทางอนุรักษ์และต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมชมการแสดงพื้นบ้านและผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญา โดยรัฐมนตรีฯ ย้ำว่าอัตลักษณ์ไทยทรงดำคือ “ทุนวัฒนธรรมที่มีมูลค่า” สามารถต่อยอดสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และกระทรวงพร้อมสนับสนุนเต็มที่เพื่อยกระดับสู่เวทีสากล
จากนั้นลงพื้นที่ ชุมชนคุณธรรมต้นแบบบ้านหนองขาว อ.ท่าม่วง ซึ่งร่วมพัฒนากับวัดอินทาราม ภายใต้แนวคิด “บวร–บ้าน วัด โรงเรียน” โดดเด่นทั้งด้านเรือนขาวโบราณ อาหารพื้นถิ่น งานหัตถกรรม และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รมว.วธ. กล่าวชื่นชมความเข้มแข็งของชุมชน พร้อมยกเป็น “ต้นแบบวัฒนธรรมสร้างเศรษฐกิจจริง” ตามเจตนารมณ์นโยบายไท ไทย
ต่อมา รมว.วธ. เดินทางไปตรวจเยี่ยม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งจัดแสดงโบราณวัตถุจากแหล่งโบราณคดีบ้านเก่า หนึ่งในแหล่งสำคัญระดับชาติและระดับภูมิภาค พบหลักฐานมนุษย์ยุคหินใหม่อายุราว 3,000–4,000 ปี โดยรัฐมนตรีฯ เน้นการพัฒนาสู่ “พิพิธภัณฑ์สมัยใหม่” ที่เข้าถึงง่าย ดึงดูดนักท่องเที่ยว และสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจควบคู่กับการอนุรักษ์
ช่วงบ่าย ลงพื้นที่ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ อ.ไทรโยค โบราณสถานศิลปะขอมแบบบายน อายุย้อนหลังกว่า 800 ปี โดยรัฐมนตรีฯ รับฟังข้อมูลด้านการอนุรักษ์และแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมย้ำว่าแหล่งประวัติศาสตร์แห่งนี้สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนได้ หากมีการบริหารจัดการอย่างบูรณาการ
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ถือเป็นการสนับสนุนชุมชนบ้านรางหวายและชุมชนคุณธรรมวัดอินทารามให้ก้าวสู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สร้างรายได้จริง รวมถึงการยกระดับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเก่า และอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ให้เป็นศูนย์เรียนรู้สำคัญของประชาชนและเยาวชน
ทั้งหมดสอดคล้องตามนโยบาย “ไท ไทย – สืบสาน สร้างสรรค์ นำวัฒนธรรมไทยสู่อนาคต” ที่ไม่ได้หยุดเพียงการอนุรักษ์ แต่มุ่งต่อยอดให้วัฒนธรรมกลายเป็นพลังทางเศรษฐกิจที่จับต้องได้ และสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนในพื้นที่อย่างยั่งยืน


