พระนครศรีอยุธยา – น้ำจากเขื่อนเจ้าพระยายังไหลลงท้ายเขื่อนปริมาณสูง แม้เริ่มปรับลด แต่ยังท่วมหนักหลายอำเภอ รวม 12 อำเภอ 145 ตำบล กระทบกว่า 64,086 ครัวเรือน เสียชีวิตแล้ว 20 ราย ขณะที่หลายภาคส่วนลงช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
วันนี้( 21 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท แม้จะมีการปรับลดอัตราการระบายน้ำลงเล็กน้อย เหลือท้ายเขื่อน 2,637 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยยังคงสูง และไหลล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุด ส่งผลให้ขยายวงกว้างไปยังหลายอำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทำให้ขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 12 อำเภอ 145 ตำบล 945 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 64,086 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 20 ราย ได้แก่ ในอำเภอเสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร และอำเภอพระนครศรีอยุธยา
อำเภอที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน อำเภอบางปะหัน อำเภอบางซ้าย อำเภอบ้านแพรก อำเภอลาดบัวหลวง อำเภอมหาราช อำเภอนครหลวง
ขณะเดียวกัน ธารน้ำใจจากหลายหน่วยงานยังคงหลั่งไหลลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดย สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ และ ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอบางบาล
ภารกิจครั้งนี้ได้มอบถุงยังชีพในโครงการ “น้ำพระทัยพระราชทาน”, โครงการ “หนึ่งใจ...ช่วยเหลือผู้ประสบภัย” และน้ำดื่มจากศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์คจำนวนกว่า 6,000 ขวด เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่
การลงพื้นที่นำโดย ร้อยตำรวจโท ดร.มนัส โนนุช ประธานมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ และประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ นายบุญธรรม ถาวรทัศนกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเกรียงศักดิ์ ปึกขาว นายอำเภอบางบาล ผู้บริหารศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค และคณะเจ้าหน้าที่ คณะผู้บริหารได้เข้ามอบถุงยังชีพที่ว่าการอำเภอบางบาล ก่อนลงพื้นที่ต่อไปยังชุมชนวัดจุฬามณี ตำบลบ้านกุ่ม เพื่อส่งมอบสิ่งของให้ผู้ประสบภัยที่ไม่สามารถเดินทางออกมารับด้วยตนเอง เนื่องจากบ้านเรือนยังคงถูกน้ำท่วมสูง


