xs
xsm
sm
md
lg

ประธานที่ปรึกษา รมว.แรงงาน เปิดอบรมแรงงานไทยรุ่นที่ 3 เตรียมพร้อมสู่ตลาดงานอิสราเอล 477 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครปฐม - ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีแรงงาน ฝ่ายต่างประเทศ เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพแรงงานไทย (TIC) รุ่นที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2569 เดินหน้าพัฒนาทักษะ–เตรียมพร้อมแรงงานก่อนเดินทางทำงานอิสราเอล ยกระดับแรงงานคุณภาพตามนโยบาย Quick Big Win

วันนี้( 14 พ.ย.) ที่ห้องประชุมแสนปาล์ม คอนเวนชั่นฮอลล์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ดร.มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ฝ่ายต่างประเทศ เป็นประธานเปิดโครงการ “พัฒนาศักยภาพแรงงานไทยตามความต้องการของตลาดแรงงานอิสราเอล” ประจำปีงบประมาณ 2569 รุ่นที่ 3 โดยมีนายวิชิต อินทรเจริญ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวรายงานการจัดงาน

ในพิธีมีผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ผู้อำนวยการกอง หน่วยงานด้านแรงงานจังหวัด สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมการกงสุล รวมถึงแรงงานไทยผู้เข้ารับการอบรมรวม 477 คน เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

นายวิชิต เปิดเผยว่า ไทยและอิสราเอลได้ลงนามกรอบความร่วมมือด้านแรงงานภายใต้โครงการ TIC ตั้งแต่ปี 2563 โดยมีการส่งแรงงานไทยไปทำงานด้านเกษตรแล้วกว่า 80,000 คน และมีกลุ่มที่อยู่ระหว่างรอเดินทางระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน – 24 ธันวาคม 2568 อีก 1,810 คน

สำหรับการอบรมรุ่นนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง เช่น ภาษาฮิบรูขั้นพื้นฐาน สำหรับใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวัน เทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ วินัยการทำงาน ความปลอดภัย และอาชีวอนามัย ปรับตัวด้านสภาพแวดล้อม–วัฒนธรรม และการรับมือเหตุฉุกเฉินในต่างประเทศ

หลักสูตรจัดตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 14–16 พฤศจิกายน 2568 โดยได้รับความร่วมมือวิทยากรจากกองทัพอากาศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ และวิทยากรอิสราเอล Mr. Alon Miler เพื่อให้แรงงานได้รับมาตรฐานการอบรมอย่างเป็นทางการครบถ้วน

ด้าน ดร.มล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า โครงการ TIC เป็นโอกาสสำคัญที่เปิดทางให้แรงงานไทยเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกกฎหมาย โปร่งใส และได้รับการคุ้มครองสิทธิรอบด้าน สอดคล้องกับนโยบาย Quick Big Win ที่ตั้งเป้าจัดส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศมากกว่า 50,000 อัตราภายใน 4 เดือน

ทั้งนี้ แอ่งอุตสาหกรรมในอิสราเอล เช่น ภาคเกษตร ก่อสร้าง และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้การยอมรับแรงงานไทยเป็นอย่างสูง ด้วยความขยัน ซื่อสัตย์ และมีวินัย จึงเป็นประเทศที่มีแรงงานไทยเดินทางไปทำงานมากที่สุดประเทศหนึ่ง

ประธานที่ปรึกษาฯ เน้นย้ำว่า การไปทำงานครั้งนี้ไม่ใช่เพียงหาประสบการณ์และรายได้ แต่เป็นการเรียนรู้เทคโนโลยีเกษตรยุคใหม่ เช่น ระบบน้ำอัจฉริยะ โรงเรือนเทคโนโลยีสูง ระบบบริหารแรงงานดิจิทัล ซึ่งแรงงานไทยสามารถนำกลับมาพัฒนาต่อยอดที่บ้านเกิดได้

พร้อมฝากข้อคิดแก่แรงงานไทยทุกคนให้รักษาวินัย เคารพกฎหมายประเทศปลายทาง ไม่ข้องเกี่ยวสิ่งเสพติดและการพนันทุกชนิด และใช้โอกาสที่ได้รับอย่างเต็มที่ พร้อมย้ำว่าสำนักงานแรงงานไทยประจำกรุงเทลอาวีฟจะดูแลและประสานความช่วยเหลือแรงงานไทยอย่างใกล้ชิด

ท้ายที่สุด ดร.มล.กรกสิวัฒน์ ขอให้แรงงานไทยทุกคนเดินทางโดยสวัสดิภาพ ทำงานด้วยความตั้งใจ วางแผนเก็บออม และนำความรู้กลับมาสร้างอนาคตให้ตนเองและครอบครัวอย่างยั่งยืน.










กำลังโหลดความคิดเห็น