ตราด - หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด สั่งห้ามนำคนไทย-เขมรเข้าออกชายแดนโดยไม่ได้รับคำสั่ง หลังพบบางหน่วยงานลักลอบนำคนเข้า-ออกโดยไม่แจ้ง ขณะพื้นที่บ้าน 3 หลัง ต.ชำราก ยังตรึงกำลังแน่น ส่วนชายแดนจันทบุรี เข้มตรวจสอบการลักลอบเข้าด่านบ้านแหลม-บ้านผักกาด เกิน100%
วันนี้ ( 10 พ.ย.) น.อ.ธรรมนูญ วรรณา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ผบ.ฉก.นย.ตราด)ได้เปิดเผยว่า พล.ร.ท. อภิชาติ ทรัพย์ประเสริญ ผบ.นาวิกโยธินและ ผบ.กองกำลังป้องกันจันทบุรีและตราด ได้ใช้ประกาศกฏอัยการศึกสั่งการด้วยวาจาว่า การนำแรงงานกัมพูชาออกจากประเทศไทย ใน จ.จันทบุรีและตราด จะต้องได้รับคำสั่งจากทหารนาวิกโยธินในพื้นที่ก่อน หลังพบว่ามีบางหน่วยงานนำแรงงานกัมพูชา เข้าออกโดยไม่แจ้งให้ทราบ
ทั้งนี้ขอยืนยันว่า หากหน่วยงานในพื้นที่ต้องการนำชาวกัมพูชา หรือชาวไทย เข้าออกบริเวณจุดผ่านแดนจะต้องแจ้งและขออนุญาตให้ทหารนาวิกโยธินในพื้นที่ให้ได้รับทราบก่อน
ส่วนสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่ จ.ตราดนั้น โดยเฉพาะบริเวณบ้านหนองรี ซึ่งมีบ้าน 3 หลังที่ปลูกรุกล้ำอธิปไตยไทยและได้มีการทำลาย ปแล้ว แต่ยังพบว่ามี ทหารกัมพูชา ลอบเข้ามาตั้งฐานและขุดคูเลต ซึ่งที่ผ่านมามา ทหารนาวิกโยธิน ได้เข้ายึดพื้นที่แล้วแต่ผู้บังคับบัญชา ได้ขอให้ถอนกำลังออกมาเพื่อไม่ให้ทำผิดข้อตกลงหยุดยิงนั้น วันนี้ทหารในพื้นที่ยังตรึงกำลังอย่างหนาแน่นเพื่อรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้ายึดคืนเท่านั้น
ขณะที่การก่อสร้างถนนเพื่อความมั่นคงบริเวณชายแดนบ้านชำราก มีรายงานว่าได้ดำเนินการแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย หลังพระอาจารย์ศักดา สุนทโร ริเริ่มและเข้ามาสนับสนุนร่วมกับผู้นำชุมชนด้วยการนำเครื่องมือและงบประมาณเข้าดำเนินการจำนวน 1.6 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ ทหารนาวิกโยธิน สามารถเดินทางเข้าพื้นที่ได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่าในส่วนของ กองกำลังชายแดนจันทบุรีและตราด ได้มีคำสั่งยกระดับความเข้มงวดในการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณด่านบ้านแหลม และด่านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ. จันทบุรี เพิ่มมากกว่า100 % หลังพบการลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน รวมถึงช่องทางธรรมชาติของชาวเขมรเพื่อซื้อสินค้า และเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องเช่นกัน


