xs
xsm
sm
md
lg

แรงงานเมียนมาชุดแรก จากศูนย์อพยพบ้านต้นยาง พร้อมเริ่มงานเก็บลำไยจันทบุรีในวันพรุ่งนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จันทบุรี - แรงงานเมียนมา ชุดแรกจากศูนย์อพยพบ้านต้นยาง จ.กาญจนบุรี พร้อมเริ่มงานเก็บลำไยในพื้นที่ จ.จันทบุรี วันพรุ่งนี้หลังรัฐบาลเปิดทางให้ผู้ลี้ภัย สามารถทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย ช่วยเกษตรกร-ภาคการผลิต แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ด้านผู้ประกอบการขานรับถือเป็นนโยบายที่ดี 

จากกรณีที่ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2568 ให้แรงงานชาวเมียนมา ที่พำนักในศูนย์พักพิงชั่วคราวสามารถออกมาทำงานนอกพื้นที่ได้อย่างถูกกฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจนั้น



วันนี้ ( 5 พ.ย.) นายณรงค์เวทย์ มหเศรษฐพงษ์ ฝ่ายจัดซื้อลำไยเพื่อการส่งออก บริษัท ปิ่นแก้วการเกษตร จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ใน อ. โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า การที่คณะรัฐมนตรี อนุมัติให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ถือเป็นข่าวดีของผู้ประกอบการลำไย เนื่องจากยังคงมีความต้องการแรงงานในการเก็บลําไยอีกจํานวนมาก โดยเฉพาะในช่วงตรุษจีน ที่มีความจำเป็นจะต้องหาแรงงานให้เพียงพอต่อความต้องการผลไม้จากไทยของตลาดจีน

พร้อมบอกว่าขณะนี้แรงงานชาวเมียนมาชุดแรก ที่อยู่ในศูนย์อพยพบ้านต้นยาง จ.กาญจนบุรี จํานวน 201 คน ได้เดินทางมาถึง จ.จันทบุรี เพื่อเริ่มเก็บลำไยเป็นวันแรกในวันพรุ่งนี้ ( 6 พ.ย.) โดยมีผู้ดูแล และสายเก็บ ร่วมอบรมให้ความรู้และชี้แจงถึงการเก็บลำไยที่ถูกต้อง ซึ่งชาวเมียนมาชุดแรก เป็นชนชาติเมียนมา เชื้อสายกะเหรี่ยง ปกาเกอะญอ และนับถือศาสนาคริสต์ ที่มีความตั้งใจอยากทํางานหารายได้”

โดยแรงงานจะมีค่าใช้จ่ายตามกฎหมาย เช่น ค่าตรวจสุขภาพ 500 บาท ค่าประกันสุขภาพ 1,600 บาท และค่าทำใบอนุญาตทำงาน 100 บาท รวมทั้งสิ้น 2,200 บาท ซึ่งผู้ประกอบการ ได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าวร้อยละ 50


ขณะที่ น.ส. ญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส.จันทบุรีเขต 3 จันทบุรี เผยถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานในช่วงฤดูเก็บลำไยของ จ.จันทบุรี ว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันหาแนวทางแก้ไข และภายหลังมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมาทางจังหวัด จึงได้มีการประสานงานไปยังสมาคมชาวไร่อ้อย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลี้ภัยจากพื้นที่พักพิงชั่วคราวได้ออกมาทํางานนอกพื้นที่ และก่อนหน้านี้คณะกรรมการและผู้ประสานงาน ยังได้เดินทางเข้าร่วมชมการเก็บลำไยใน จ.จันทบุรี จนมั่นใจว่า ผู้ลี้ภัย จะสามารถทํางานนี้ได้

โดยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้มีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกให้กระบวนการนำแรงงานออกมาทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งแรงงานกลุ่มดังกล่าวจะได้รับอนุญาตทำงานเป็นเวลา 1 ปี และสามารถทำงานในกิจกรรมเกษตร เช่น เก็บลำไย ตัดแต่งกิ่ง หรือทำสวนทุเรียน ยกเว้นบางพื้นที่ในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

“ถือเป็นโอกาสที่ดีของทั้งสองฝ่าย คือเกษตรกร ที่จะได้แรงงานช่วยเหลือ ส่วนผู้ลี้ภัย ก็มีรายได้เลี้ยงชีพอย่างถูกกฎหมาย เนื่องจากปัจจุบันสหประชาชาติ (UN) ได้ลดการให้เงินช่วยเหลือผู้ลี้ภัยลงจากการที่ผู้บริจาครายใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา ตัดงบประมาณช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม จนทำให้ UN มีความจําเป็นต้องลดการให้ความช่วยเหลือลงตามไปด้วย” สส.จันทบุรีเขต 3 กล่าว

และจากการพูดคุยกับแรงงานชาวเมียนมา ที่ตัดสินใจเดินทางมาเก็บลําไยใน จ.จันทบุรี ทราบว่าที่การอยู่ที่ศูนย์อพยพไม่มีรายได้และไม่มีงานทำ ดังนั้นสิ่งที่คาดหวังก็คือออกการมาหารายได้เพื่อส่งกลับไปให้ครอบครัวที่ยังอยู่ที่ศูนย์อพยพ และตนเองก็พร้อมที่จะเรียนรู้และอดทนในการทำงาน








กำลังโหลดความคิดเห็น