พระนครศรีอยุธยา – สถานการณ์น้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยายังไม่คลี่คลาย หลังเขื่อนเจ้าพระยายังต้องปรับระบายน้ำขึ้นลงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงสูง ชาวบ้านหลายพื้นที่ต้องอพยพหนีน้ำ บางรายต้องย้ายอาชีพออกมาทำงานริมถนน เพราะในบ้านถูกน้ำท่วมมานานนับเดือน
วันนี้( 4 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้จังหวัดพระนครศรีอยุธยายังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรวม 8 อำเภอ 123 ตำบล 837 หมู่บ้าน มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 54,050 ครัวเรือน โดยอำเภอที่ยังมีน้ำท่วมสูงได้แก่ เสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน บางประหัน และบางซ้าย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและตั้งอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่ หมู่ 3 ตำบลบางชะนี อำเภอบางบาล พบว่าน้ำยังท่วมสูง บ้านเรือนหลายร้อยหลังยังจมอยู่ในน้ำ บางครอบครัวต้องย้ายออกมาพักอาศัยริมถนนหรือศาลาริมทาง เพื่อประกอบอาชีพชั่วคราว หนึ่งในนั้นคือ กลุ่มชาวบ้านทำก้านธูป ที่ต้องขนเครื่องมือมานั่งเหลาก้านธูปริมถนนแทน เพราะไม่สามารถทำงานในบ้านได้
นางปิ่น พงศ์เจริญ อายุ 68 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า น้ำท่วมมานานกว่า 2 เดือนแล้ว และยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะลดลงเร็ว ๆ นี้ “กลัวว่าน้ำจะอยู่อีกเป็นเดือน ตอนนี้ในบ้านท่วมลึก เรือเข้าแทบไม่ได้ ต้องดันเข้าไปถึงในบ้าน กลัวน้ำดันบ้านพัง แต่เราหยุดไม่ได้ ถ้าไม่ทำก็ไม่มีรายได้ ต้องย้ายมานั่งเหลาก้านธูปริมถนนแทน ถึงจะลำบากแต่ก็ต้องสู้ต่อ”
นางปิ่นเล่าด้วยว่า แม้ปีนี้ระดับน้ำจะไม่สูงเท่าปี 2565 แต่ก็ท่วมนานและส่งผลกระทบมาก เพราะบางบ้านมีผู้ป่วยติดเตียง ต้องคอยดูแลอย่างยากลำบาก “ในบ้านมีคนป่วยติดเตียง ต้องพายเรือเข้าออกทุกวัน เหนื่อยแต่ก็ต้องอยู่ให้ได้” เธอกล่าวทั้งน้ำตา
สำหรับสถานการณ์โดยรวม จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองสาขา ซึ่งน้ำยังคงทรงตัวในระดับสูง หากฝนตกเพิ่มหรือมีการปรับระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาอีก อาจส่งผลให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนเพิ่มขึ้น
                    

