xs
xsm
sm
md
lg

เลือกป้องชาติมากกว่าป้องชีพ “จ.ส.อ.พลพร” นักรบภูมะเขือ รู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายแต่สู้ไม่ถอย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาฬสินธุ์ - ครอบครัวสุดอาลัย “จ.ส.อ.พลพร ทาบรรหาร” ชาวเมืองน้ำดำ นักรบภูมะเขือ สู้ไม่ถอยเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาทั้งที่เป็นโรคร้าย แม่เผยภาคภูมิใจลูกชาย ขอสู้เพื่อรักษาแผ่นดินไทย และดูแลทีมงาน ขอตายในชุดทหารแม้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ก่อนสถานการณ์คลี่คลายกลับมารักษาและเสียชีวิตอย่างสงบที่บ้านเกิด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 237 ม.9 ต.นามะเขือ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ จ.ส.อ.พลพร ทาบรรหาร อายุ 42 ปี ทหารสังกัดกองร้อยอาวุธเบาที่ 1 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 16 (ร.16 พัน.2 ร้อย.1) ค่ายบดินทรเดชา จ.ยโสธร ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว (มะเร็งตับ) หลังปฏิบัติหน้าที่ทหารกล้าที่ภูมะเขือ เหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาจนวินาทีสุดท้าย แม้รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย แต่ก็ไม่ยอมลงมารักษาตัว ยังปฏิบัติหน้าที่รักษาผืนแผ่นดินของชาติ และอยู่คู่เคียงบ่าเคียงไหล่ทีมงานจนสถานการณ์คลี่คลาย

จ.ส.อ.พลพรจึงกลับมารักษาตัว ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมาที่บ้านเกิดใน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยมีญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน นายจีรศักดิ์ จราฤทธิ์ กำนันตำบลนามะเขือ นายอำคา โทรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านนามะเขือ ม.9 พร้อมด้วยเพื่อนข้าราชการทหารมาช่วยงานและแสดงความเสียใจ


นางหนูพลอย ทาบรรหาญ อายุ 61 ปี แม่ของ จ.ส.อ.พลพร ทาบรรหาร เล่าว่า ลูกชายรับราชการทหารมา 20 กว่าปีแล้ว มีภรรยา และลูกชาย 1 คน เรียนอยู่ที่ จ.ยโสธร แต่เดิมจับสลากได้ใบแดงเป็นทหาร ก่อนจะสอบได้นายสิบ รับราชการทหารอยู่ที่ จ.ยโสธร ซึ่งช่วงก่อนหน้าที่จะมีการปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ลูกชายได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล พบก้อนเนื้องอกที่ตับ แพทย์บอกว่าเป็นมะเร็งตับระยะที่ 3-4 หรือระยะสุดท้ายแล้ว ซึ่งมีอาการปวดท้องบ้าง แต่ก็ไม่เคยได้ยินลูกชายบ่น หรือบอกว่าปวดท้อง เนื่องจากลูกชายมีความอดทนมาก และจะไม่ยอมแสดงอาการอ่อนแอให้ใครเห็นง่ายๆ

นางหนูพลอยเล่าต่อว่า กระทั่งช่วงระหว่างวันที่ 24-28 กรกฎาคม 2568 ซึ่งเกิดการปะทะกันนั้น จ.ส.อ.พลพรบอกแม่ว่าจะขอทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติให้ถึงที่สุด และจะขอทำหน้าที่ดูแลทีมงานที่สู้รบด้วยกันให้ถึงที่สุดที่ภูมะเขือ แม้แม่จะพยายามบอกลูกชายให้เดินทางกลับมารักษาตัว แต่ลูกชายก็ไม่ยอมลงมาทำการรักษาต่อ และบอกว่าหากตายก็จะยอมตายในชุดทหารออกรบ พร้อมกับได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ภูมะเขือต่อไปจนเหตุการณ์สงบคลี่คลายลง และได้เดินทางมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ และได้เสียชีวิตเมื่อไม่กี่วันก่อนด้วยอาการสงบ


นางหนูพลอยบอกว่า แม้การจากไปของลูกชายจะสร้างความเสียใจให้ตน และครอบครัวอย่างมาก แต่ก็ภูมิใจที่ลูกชายทำหน้าที่เสียสละทั้งแรงกาย แรงใจ เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ให้คนไทยอยู่อย่างปลอดภัยจนถึงวินาทีสุดท้าย ไม่ห่วงตัวเอง เห็นประเทศชาติมาก่อน ไม่ยอมทิ้งเพื่อนร่วมทีม แม้ตัวเองจะเจ็บปวดจากโรคภัย ซึ่งหลังจากนี้ทางครอบครัวก็จะจัดพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

สำหรับการจัดงานศพก็ได้รับการดูแลจากหน่วยทหารต้นสังกัด ผู้บังคับบัญชาของ จ.ส.อ.พลพร เพื่อนทหาร รุ่นน้อง เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครองอำเภอสหัสขันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวก และจัดพิธีงานศพ จึงขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือดังกล่าว


ด้านสิบเอก ธีระพงษ์ ประทุม อายุ 28 ปี ทหารรุ่นน้องในทีม บอกว่า ภูมิใจและภาคภูมิใจมากที่ได้ร่วมงาน และร่วมสู้รบกับพี่ จ.ส.อ.พลพร ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จ.ส.อ.พลพรเป็นทั้งพี่ชาย เป็นทั้งหัวหน้าทีม เป็นทั้งเพื่อนรุ่นพี่ที่ดูแลน้องๆ ร่วมทุกข์ ร่วมสุขมาด้วยกัน และที่สำคัญได้ทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมือง และทีมงานอย่างเต็มความสามารถ ไม่ยอมทิ้งเพื่อน ไม่ยอมทิ้งน้อง ไม่ยอมทิ้งพี่แม้ตัวเองจะเจ็บป่วย ซึ่งตนและรุ่นน้อง พร้อมด้วยเพื่อนๆ จะไม่มีวันลืมความดีและไม่มีวันลืม จ.ส.อ.พลพรตลอดไป


กำลังโหลดความคิดเห็น