xs
xsm
sm
md
lg

เรือนจำอ่างทอง จับมือ “เกษตรไทย กรุ๊ป” ปลูกทุเรียนฝึกอาชีพผู้ต้องขัง ดันเป็นแหล่งเรียนรู้เกษตรต้นแบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อ่างทอง – เรือนจำจังหวัดอ่างทองฮือฮา! เซ็น MOU กับบริษัทเอกชน “เกษตรไทย กรุ๊ป จำกัด” เดินหน้าโครงการปลูกทุเรียนในเรือนจำ เพื่อฝึกอาชีพและพัฒนาทักษะด้านเกษตรกรรมแก่ผู้ต้องขัง หวังคืนคนดีสู่สังคมตามนโยบาย “8 มิติ ยกกำลังสอง สร้างคนดีคืนสังคม” ของกรมราชทัณฑ์

วันนี้(31 ต.ค.) ที่ศูนย์การเรียนรู้โครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” เรือนจำจังหวัดอ่างทอง ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) “ความร่วมมือในการปลูกทุเรียนเพื่อฝึกอาชีพผู้ต้องขัง” ระหว่าง เรือนจำจังหวัดอ่างทอง และ บริษัท เกษตรไทย กรุ๊ป จำกัด

โดยมี นายนัทธี จิตสว่าง อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และที่ปรึกษาพิเศษสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายธิตินัย พาติกบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทอง และ นางสาวสุนันทา สุขท่ามะพลา กรรมการผู้จัดการบริษัทเกษตรไทย กรุ๊ป จำกัด ร่วมลงนาม พร้อมพยานและเจ้าหน้าที่เรือนจำเข้าร่วมอย่างคับคั่ง
โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะอาชีพด้านการเกษตรให้แก่ผู้ต้องขัง โดยเฉพาะการปลูกและดูแลทุเรียนอย่างมีมาตรฐาน รวมถึงใช้พื้นที่เกษตรของเรือนจำให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างรายได้หมุนเวียน และต่อยอดสู่การประกอบอาชีพหลังพ้นโทษ

ตามข้อตกลงความร่วมมือ เรือนจำจังหวัดอ่างทอง จะจัดสรรพื้นที่ภายในเรือนจำสำหรับปลูกทุเรียน และจัดผู้ต้องขังเข้าร่วมการฝึกอบรมและปฏิบัติงานจริง รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ประสานงานดูแลความเรียบร้อย ขณะที่ บริษัท เกษตรไทย กรุ๊ป จำกัด จะสนับสนุนพันธุ์ทุเรียน ปุ๋ย วัสดุการเกษตร ตลอดจนองค์ความรู้ในการเพาะปลูก ดูแล และจัดการสวนทุเรียน พร้อมจัดอบรมเชิงวิชาการและเทคนิคให้แก่ผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ รวมถึงสนับสนุนการตลาดและรับซื้อผลผลิต (หากมี) ตามเงื่อนไขที่ตกลงร่วมกัน  บันทึกข้อตกลงฉบับนี้มีระยะเวลา 5 ปี และสามารถต่ออายุหรือปรับปรุงตามความเหมาะสม

นายธิตินัย พาติกบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสำคัญของกรมราชทัณฑ์ “รวมพลังขับเคลื่อน 8 มิติ ยกกำลังสอง สร้างคนดีคืนสังคม” ที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูผู้ต้องขังทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอาชีพ เพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างยั่งยืน

“ต้องขอขอบคุณบริษัท เกษตรไทย กรุ๊ป ที่เห็นความสำคัญและร่วมมือกับเรือนจำอ่างทองในการพัฒนาทักษะชีวิตผู้ต้องขัง ผ่านการปลูกทุเรียน ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ผู้ต้องขังมีอาชีพหลังพ้นโทษ แต่ยังทำให้เรือนจำเป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรต้นแบบ และเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคนดีคืนสู่สังคม”

 นายธิตินัย กล่าวสำหรับผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ ผู้ต้องขังมีความรู้และทักษะด้านเกษตรกรรม สามารถประกอบอาชีพได้จริงหลังพ้นโทษ ขณะที่เรือนจำอ่างทองจะกลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาอาชีพเชิงเกษตรที่สร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิต ส่วนภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) และต่อยอดสู่เครือข่ายเกษตรยั่งยืนร่วมกับภาครัฐในอนาคต






กำลังโหลดความคิดเห็น