xs
xsm
sm
md
lg

กระแสตอบรับ “คนละครึ่งพลัส” ดีเกินคาด ประธานหอการค้าเลย มั่นใจพลิกเศรษฐกิจฟื้นตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลย-กระแสตอบรับโครงการคนละครึ่งพลัส จังหวัดเลย ดีเกินคาด นักท่องเที่ยวและประชาชนแห่ใช้สิทธิทั้งซื้ออาหาร สินค้า และบริการ ส่งผลร้านค้าท้องถิ่นมีเงินหมุนเวียนคึกคัก ด้านประธานหอการค้าจังหวัดเลย รับเป็นกลไกช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวดี

นายณัฐพล เหลืองวงศ์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดเลย
นายณัฐพล เหลืองวงศ์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ในฐานะกรรมการหอการค้าไทยและประธานหอการค้าจังหวัดเลย ตนมองว่าในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันโครงการคนละครึ่งพลัส เป็นกลไกสำคัญกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมหาศาล ซึ่งโครงการนี้เป็นการขยายโอกาสสู่ผู้ประกอบการรายย่อย และถือเป็นก้าวสำคัญที่ได้ขยายขอบเขตกลุ่มผู้ประกอบการเป็นครั้งแรก

เปิดโอกาสให้ร้านค้าและผู้ประกอบการรายย่อย ที่มีรายได้ไม่เกินที่กำหนด สามารถเข้าร่วมโครงการได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งยังเพิ่มความหลากหลายของบริการ ที่เพิ่มประเภทบริการให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่นการบริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม รวมถึงบริการด้านการขนส่ง แท็กซี่ และรถรับจ้าง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการฐานรากที่ต้องการการสนับสนุนเป็นพิเศษ

นายณัฐพล กล่าวต่อว่าทั้งยังสร้างแรงจูงใจในการเข้าสู่ระบบภาษี การให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมแก่ผู้ที่ยื่นเสียภาษี เป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดจูงใจให้ประชาชนเข้ามาอยู่ในระบบภาษีอย่างถูกต้องและเป็นธรรมมากขึ้น หลังจากได้เปิดใช้เมื่อวานนี้ พบว่าบรรยากาศการใช้จ่ายในวันแรกของโครงการ ถนนคนเดินเชียงคาน มีการใช้สิทธิคนละครึ่งทั้งนักท่องเที่ยวและประชาชนคนเชียงคาน ได้จับจ่ายซื้อสินค้ากันอย่างคึกคักมาก

ในมุมมองของผู้บริโภค การที่สินค้ามูลค่า 200 บาท แต่จ่ายจริงเพียง 100 บาท โดยรัฐบาลช่วยสมทบอีก 100 บาท ทำให้เกิดความรู้สึกว่าสินค้ามีราคาถูกลงมาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายและรวดเร็ว เป็นการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในท้องถิ่นได้อย่างดี การซื้อการขายเงินหมุนสะพัดในท้องถิ่นดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจที่เคยเงียบเหงาของจังหวัดเลย กลับมาคึกคักอีกครั้ง

น.ส.วราจิต จินดาพงษ์ เจ้าของร้านอาหารลำฮิมกอง




ด้านน.ส.วราจิต จินดาพงษ์ เจ้าของร้านอาหารลำฮิมกอง กล่าวว่าต้องยอมรับโครงการคนละครึ่งพลัส เป็นโครงการที่ดี เมื่อวานเริ่มใช้วันแรกตนคิดว่าคงจะเจอปัญหาเยอะกับการใช้แอพ ตนยังบอกกับเด็กๆภายในร้าน หากพบก็ช่วยกันแก้ปัญหา แต่เมื่อทำจริงๆพบว่า แทบไม่พบปัญหาการให้แอพของลูกค้าเลย เมื่อวานที่พบมี 2-3 ราย เท่านั้น ปัญหามาจากเจ้าของแอพเอง ที่โทรศัพท์ตนเองไม่เสถียร

หลังจากที่ร้านเคยเงียบมานาน เมื่อวานคนเข้ามาใช้บริการเยอะมาก และวันนี้ตั้งแต่เปิดร้านลูกค้าก็มาอุดหนุน ส่วนใหญ่จะมาทานข้าวกับครอบครัว หรือมากับเพื่อนร่วมงาน ต่างคนต่างมีแอพคนละครึ่งพลัส ก็เฉลี่ยกันจ่าย สรุปสั่งอาหารเต็มโต๊ะแต่ช่วยกันจ่ายไม่กี่บาทอิ่มกันทุกคน จึงอยากฝากขอให้รัฐบาลคงไว้กับโครงการดีๆแบบนี้อีก เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น