เชียงใหม่ - ตร.บุกทลายรังคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน จ่ายเดือนละ 1.2 แสน เช่าบ้านหรูพูลวิลลาติดแม่น้ำปิงราคาหลังละ 90 ล้านในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งฐานหลอกคนจีนด้วยกันเอง จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 20 ราย ยึดของกลางโทรศัพท์มือถือเป็นร้อยเครื่องและซิมจำนวนมาก พร้อมเร่งติดตามจับกุมอีกกว่า 10 คนที่หลบหนี
วันนี้ (30 ต.ค. 68) พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พลตำรวจเอก ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำกำลังชุดสืบสวนภาค 5 และตำรวจ PCT ภาค 5 บุกเข้าจับกุมเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ภายในบ้านเลขที่ 161 ซอย 47 หมู่บ้านเพชรปิงปิง ตำบลดอนแก้ว อำเภอ แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากได้รับรายงานว่าบ้านหลังดังกล่าวได้ตั้งเป็นฐานคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนหลอกคนจีนด้วยกันเอง โดยเช่าพูลวิลลาหรูติดแม่น้ำปิง มีบ้านแบ่งย่อยเป็นหลังๆ ออกจากหลังใหญ่ไปอีก 3 หลัง
จากการปิดล้อมตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนทั้งหมด 20 คน ผู้ชาย 14 คน เป็นหญิง 6 คน ซึ่งบางรายได้รับบาดเจ็บขณะพยายามหลบหนี นอกจากนี้มีผู้ต้องหาบางส่วนที่สามารถวิ่งหลบหนีลงแม่น้ำปิงและวิ่งเข้าป่าไปได้สิบกว่าราย เนื่องจากภายในบ้านพักได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดคอยดูความเคลื่อนไหวของตำรวจ เมื่อเห็นตำรวจจึงได้วิ่งหลบหนี ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี ขณะเดียวกันสามารถยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ 100 กว่าเครื่อง พร้อมซิมโทรศัพท์จีนจำนวนมาก รวมถึงแพลตฟอร์มในการพูดคุยโทร.ไปหลอกเหยื่อ
ทั้งนี้ พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 กล่าวว่า สำหรับกลุ่มขบวนการเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์เครือข่ายเดียวกันกับที่ตำรวจ PCT ภาค 5 ได้จับกุมก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ที่ตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง และครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ที่พูลวิลลาในบ้านหนองปลามัน ตำบลห้วยทราย อำเภอแม่ริม หลังตำรวจได้มีการบุกทลายรัง ทางบอสจีนก็ได้ย้ายฐานจัดหาคนจีนให้มาเช่าที่นี่เพื่อเป็นฐานหลอกคนจีนด้วยกันเอง ซี่งจากการสอบถามผู้ต้องหาที่จับกุมได้ทราบว่าได้มาเช่าอาศัยที่พูลวิลลาแห่งนี้เป็นเวลา 2 เดือนแล้ว โดยบอสจีนเป็นผู้เช่า เดือนละ 120,000 บาท ส่วนพวกตนนั้นมีหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์โทร.ไปหลอกคนจีนที่ประเทศจีน
สำหรับการหลอกนั้น จะเป็นการหลอกลักษณะเดิมๆ คือหลอกส่งพัสดุ และหลอกลวงทำประกันชีวิตซึ่งก็จะมีเหยื่อชาวจีนหลงเชื่อ โดยทางบอสชาวจีนได้จัดให้พวกตนเดินทางมาจากประเทศจีนโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวและวีซ่านักศึกษา และจะให้ทำงานตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 22.00 น. โดยผู้ต้องหาแต่ละคนจะได้ค่าจ้างคนละ 100,000-200,000 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ หลังจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ตำรวจจะขยายผลหาเครือข่ายที่ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป และจะประสานกงสุลจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ให้เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดนี้เบื้องต้นตำรวจจะตั้งข้อหา อั้งยี่ซ่องโจร ข้อหาฉ้อโกง ก่อนจะนำผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่ริมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หลังจากรับโทษในประเทศไทยเสร็จก็จะส่งกลับไปรับโทษที่ประเทศจีนต่อไป


