xs
xsm
sm
md
lg

เผยเกษตรกรรุ่นใหม่หันมาปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพิ่ม เหตุเส้นไหม-ผ้าไหมขายได้ราคาสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและทอผ้ามีรายได้เลี้ยงชีพเลี้ยงครอบครัวเพราะพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่มีพระราชเสาวนีย์ให้ส่งเสริมแบบครบวงจร เผยแนวโน้มเกษตรกรรุ่นใหม่หันมาปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพิ่มขึ้นเพราะราคาเส้นไหม-ผ้าไหมสูงขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ชนบท อ.โนนศิลา และ อ.พล ซึ่งศูนย์ฯ จัดส่งไข่ไหมให้เกษตรกรมากกว่า 2,000 แผ่นต่อปี


ที่ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น นางสาวจิราลักษณ์ ปรีดี ผู้อำนวยการสำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 3 พร้อมด้วยนางสาวพัชรินทร์ โพธิ์ทอง ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่น พาผู้สื่อข่าวเยี่ยมชมกระบวนการเลี้ยงไหม ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บหนอนไหมโตเต็มวัยเข้าสู่ช่วงทำรังไหม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำหนอนไหมไปใส่ในพื้นที่ทำรังที่จัดเตรียมไว้ภายในโรงเรือนระบบปิด ป้องกันศัตรูโดยเฉพาะแมลงและมด

โดยหนอนไหมแต่ละตัวจะเลือกพื้นที่ทำรังของตนเอง และพ่นใยไหมยาวกว่า 1 กิโลเมตรในลักษณะวงรีโอบล้อมตัวเองไว้ เมื่อครบระยะเวลา 2 วันจะสามารถนำรังไหมไปต้มเพื่อสาวไหมออกมาเป็นเส้นไหมคุณภาพ ก่อนนำไปทอเป็นผ้าไหมที่มีมูลค่าสูง ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการต้นน้ำของอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่นรับผิดชอบตั้งแต่การผลิตจนถึงการหาตลาดจำหน่าย เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน


ทั้งนี้ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ได้ยึดถือแนวทางปฏิบัติตามพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีพระราชเสาวนีย์อันทรงคุณค่าไว้ว่า “การเลี้ยงไหมนอกจากจะเป็นการเสริมรายได้แก่เกษตรกรแล้ว ยังเป็นวัฒนธรรมที่เก่าแก่และดีงามของชาติที่ได้สืบสานกันมานานอีกด้วย ไม่ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร การพัฒนาการเลี้ยงไหมต้องดำเนินต่อไป”

โดยทางศูนย์ฯ ได้อัญเชิญพระราชเสาวนีย์ดังกล่าวขึ้นป้ายติดไว้บริเวณทางเข้าออกของสำนักงาน เพื่อให้ข้าราชการทุกคนตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณและหน้าที่อันสำคัญในการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน

นางสาวพัชรินทร์ โพธิ์ทอง ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ทรงเป็น “พระมารดาแห่งผ้าไหมไทย” ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู และส่งเสริมอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมาโดยตลอด เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ สามารถอยู่กับครอบครัวอย่างอบอุ่นโดยไม่ต้องอพยพไปทำงานต่างถิ่น พระองค์ทรงเล็งเห็นว่าอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเป็นอาชีพที่ยั่งยืน และเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนภูมิปัญญาไทยไปสู่สายตาชาวโลก ทรงเป็นต้นแบบของความงดงามในชุดผ้าไหมไทย ทำให้ผ้าไหมไทยกลายเป็นซอฟต์เพาเวอร์ที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ และสร้างรายได้แก่ประชาชนมาจนถึงปัจจุบัน


ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่นมีภารกิจสำคัญในการเป็นต้นน้ำถึงปลายน้ำของการผลิตผ้าไหม ตั้งแต่การผลิตไข่ไหมพันธุ์ดี หม่อนพันธุ์ดี แจกจ่ายให้เกษตรกรโดยไม่มีค่าใช้จ่าย การฝึกอบรม ถ่ายทอดความรู้ และการตรวจรับรองมาตรฐานผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ซึ่งมีทั้งหมด 4 ระดับตามหลักเกณฑ์ของกรมหม่อนไหม โดยปีนี้ตั้งเป้ารับรองผ้าไหมกว่า 23,000 เมตร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคว่าผ้าไหมไทยเป็นของแท้ สีไม่ตก และมีคุณภาพสูง


นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังสนับสนุนศูนย์ศิลปาชีพในพื้นที่ต่างๆ ทั้งด้านการให้พันธุ์หม่อนและพันธุ์ไหม การสอนสาวไหม การย้อมสีผ้าให้ได้มาตรฐาน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงการจัดประกวดลายผ้าไหมในงาน “ตรานกยูงพระราชทาน” ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญระดับประเทศ โดยผู้ชนะจะได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

นางสาวพัชรินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ปัจจุบันเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมจะลดลงจากการเปลี่ยนแปลงของสังคม แต่แนวโน้มเริ่มฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากราคาผ้าไหมและเส้นไหมสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรรุ่นใหม่หันมาสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอชนบท อำเภอโนนศิลา และอำเภอพล ซึ่งศูนย์ฯ ได้จัดส่งไข่ไหมกว่า 2,000 แผ่นต่อปีให้เกษตรกรในพื้นที่ สามารถสร้างรายได้มั่นคงให้แต่ละครอบครัว เป็นการสืบสานอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้คงอยู่สืบไป


ในโอกาสนี้ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่น พร้อมใจน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และขอแสดงความอาลัยน้อมถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อผ้าไหมไทยและเกษตรกรชาวไทยทั่วประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น