xs
xsm
sm
md
lg

หลายพื้นที่ภาคกลางคึกคัก! ประชาชนแห่ใช้สิทธิ์ “คนละครึ่งพลัส” วันแรก หนุนเศรษฐกิจชุมชนฟื้นตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ภาคกลาง - หลายพื้นที่ภาคกลางคึกคัก! ประชาชนแห่ใช้สิทธิ์ “คนละครึ่งพลัส” วันแรก คึกคักตั้งแต่เช้า-เย็น หลังประชาชนและร้านค้าร่วมโครงการ อย่างคับคั่ง ทั้งร้านอาหารสด เสื้อผ้า ผลไม้ ผัก และของใช้ ต่างติดป้ายรับสิทธิ์ ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าระบุยอดขายพุ่งตั้งแต่วันแรก ประชาชนชื่นชมรัฐบาลช่วยลดภาระค่าครองชีพ หวังให้มีต่อเนื่องและเพิ่มวงเงินในอนาคต

วันนี้( 29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ ตลาดสดหอนาฬิกา ริมเขื่อนหาดทรายโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เป็นไปอย่างคึกคัก หลังประชาชนและผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ของรัฐบาลกันอย่างต่อเนื่อง

ร้านค้าหลากหลายประเภทในตลาด ทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านอาหารสด ร้านดอกไม้ ผลไม้ และผักสวนครัว ต่างติดป้ายรับโครงการ เพื่อดึงดูดลูกค้า ขณะที่ประชาชนจำนวนมากออกมาใช้สิทธิ์จับจ่ายซื้อของจำเป็น ทำให้ตลาดเต็มไปด้วยความคึกครื้น
ผู้ประกอบการเชื่อว่า โครงการนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายและเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในท้องถิ่น ส่วนประชาชนต่างเห็นตรงกันว่า “คนละครึ่งพลัส” ช่วยลดภาระค่าครองชีพได้จริง ถือเป็นสัญญาณบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจระดับชุมชนในพื้นที่ราชบุรี

ประชาชนในพื้นที่รายหนึ่ง กล่าวว่าวันนี้ได้สิทธิ์คนละครึ่งมา ตอนเช้ายังไม่ได้ใช้ แต่จะไว้ใช้ตอนบ่าย ซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันเข้าบ้าน รู้สึกดีมากที่รัฐบาลจัดโครงการนี้ อยากให้มีต่อเนื่อง และเพิ่มวงเงินขึ้นอีก อยากขอบคุณรัฐบาลที่เห็นใจพวกเรา ซึ่งเงินคนละครึ่งจำนวนนี้ช่วยได้มากทีเดียว

พ่อค้าเขียงหมูสดกล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกของโครงการคนละครึ่ง บรรยากาศคึกคักมาก ช่วงเช้าได้ยอดขายกว่า 3,000 บาทแล้ว ด้าน แม่ค้าขายกิ๊ฟช็อป กล่าวว่า วันนี้วันแรก คนมาใช้จ่ายเยอะมาก แทบจะไม่ได้รับเงินสดเลย ส่วนใหญ่จ่ายผ่านคนละครึ่ง คึกคักมากจริง ๆ อยากขอบคุณรัฐบาล แต่ถ้าเพิ่มวงเงินได้อีกก็จะดีมาก สำหรับตัวเองวันนี้สแกนเต็มวงเงิน 400 บาทแล้ว

ขณะที่ จังหวัดอ่างทอง วันแรกของการใช้สิทธิคนละครึ่ง พลัส ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองอ่างทอง และตลาดแต้ ไนท์มาร์เก็ต อ.เมืองอ่างทอง ประชาชนเริ่มออกมาใช้สิทธิจับจ่ายสินค้า ทั้งอุปโภคและบริโภคกันตลอดทั้งวัน

นางกาญจนา มงคลแก่นทราย ที่ออกมาใช้สิทธิกับร้านส้มตำ บอกว่า ทั้งครอบครัวได้สิทธิจำนวน 3 สิทธิ และมองว่าโครงการนี้ช่วยกระตุ้นความรู้สึกให้อยากออกมาใช้จ่ายได้จริง ในวันพรุ่งนี้จะนำไปใช้ซื้อสินค้าทั่วไป

ขณะที่นายจักรกฤษณ์  กันยาน้อย หรือเจ๊โมเม เจ้าของร้านส้มตำ ก็ยืนยันว่า วันแรกของการใช้สิทธิ ตั้งแต่แปดโมงจนถึงเที่ยงวันนี้ก็มียอดขายกว่า 2,000 บาท ซึ่งมากกว่าปกติเท่าตัว ส่วนแอปก็ใช้ สามารถใช้งานได้ปกติไม่มีปัญหา แต่สำหรับผู้สูงอายุนั้นผู้ค้าอาจต้องช่วยแนะนำบ้าง

เช่นเดียวกับ นางบุญเตือน รสชะเอม เจ้าของร้านขายผลไม้ และนางสาวขวัญใจ ทรงงาม ร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ที่มองว่า
โครงการนี้จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายที่ดีขึ้นช่วงเวลาหนึ่ง เนื่องจากมีระยะเวลาและวงเงินจำกัด และคาดว่าหลังจากนี้จะมีประชาชนมาใช้สิทธิมากขึ้น โดยเฉพาะหลังเงินเดือนออก











กำลังโหลดความคิดเห็น