เชียงใหม่ - เทศบาลนครเชียงใหม่ทนกระแสไม่ไหว สั่งรื้อเกลี้ยงแล้วดอกไม้พ่นสีดำตกแต่งเมืองงานยี่เป็ง แต่ไม่วายเกิดดรามาประเด็นใหม่หลังคนตาดีเห็นโคมยี่เป็งที่ประดับตกแต่งทั่วทั้งเมือง ถูกติดตั้ง “ปิ้นจะหลิ้น” กลับหัวกลับหางไปหมด ขณะที่กรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเรื่องน่าอับอายอย่างยิ่ง ด้าน ส.ท.-ส.ส.พรรคประชาชน ขยับตั้งข้อสังเกตความผิดปกติเกี่ยวกับงบประมาณจัดงานยี่เป็งของเทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมจี้ตรวจสอบ หลังพบผู้รับงานเป็นเอกชนรายเดิมที่ได้รับการว่าจ้างตลอด
จากกรณีที่เทศบาลนครเชียงใหม่ทำการปรับเปลี่ยนการประดับตกแต่งเมืองในช่วงการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็ง ประจำปี 2568 ด้วยการใช้สีสเปรย์พ่นทับดอกไม้ประดับไฟที่ติดตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ที่เคยเป็นสีสันสดใสให้เป็นสีดำ เพื่อให้สอดคล้องเหมาะสมกับช่วงถวายความอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งนั้น ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทั้งในประเด็นความเหมาะสม และวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร โดยต่อมานายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้ชี้แจงอ้างว่าที่เห็นมีการพ่นสีดำนั้น ยังอยู่ในขั้นตอนระหว่างการปรับเปลี่ยนเท่านั้น ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ
วันนี้ (29 ต.ค. 68) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า เมื่อคืนวานนี้ (28 ต.ค. 68) ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการรื้อถอนดอกไม้ประดับไฟตกแต่งเมืองที่ถูกพ่นเป็นสีดำ ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณเกาะกลางถนนเชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันตก หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ออกทั้งหมดแล้ว หลังจากที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อเนื่อง แม้ว่าทางนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ได้ชี้แจงเหตุผลแล้ว โดยการรื้อถอนครั้งนี้มีการระบุว่าเพื่อนำไปปรับปรุงให้เสร็จสมบูรณ์ จากนั้นจึงจะนำกลับมาติดตั้งใหม่ให้มีความสวยงามและเหมาะสมต่อไป อย่างไรก็ตาม ในบริเวณเกาะกลางถนนจุดนี้มีผู้สังเกตพบว่าเทศบาลนครเชียงใหม่ได้มีการทาสีทับขอบถนนรอบเกาะกลางถนนที่เป็นขาวแดงให้กลายเป็นขาวล้วน ซึ่งมีผู้ถามว่าทำไปเพื่ออะไร หรือเพราะต้องการให้กลมกลืนกับสีดอกไม้ที่ถูกพ่นเป็นสีดำ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตด้วยว่าการทาสีทับขอถนนขาวแดงที่เป็นสัญลักษณ์จราจรเช่นนั้น จะเป็นการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
ขณะเดียวกัน พบว่านอกจากกรณีการพ่นสีดอกไม้ประดับเมืองให้เป็นสีดำแล้ว ยังเกิดประเด็นใหม่ให้วิพากษ์วิจารณ์เทศบาลนครเชียงใหม่เพิ่มเติมอีก เมื่อมีประชาชนและนักท่องเที่ยวสังเกตพบว่าโคมยี่เป็งสีขาวที่มีการออกแบบใหม่และนำไปติดตั้งประดับตามจุดต่างๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ ทั้งถนนท่าแพ,ประตูท่าแพ, ประตูช้างเผือก และมุมเมืองต่างๆ นั้น ถูกติดตั้งในลักษณะกลับหัวกลับหาง หรือที่ภาษาเหนือเรียกว่า “ปิ้นจะหลิ้น” ซึ่งจากการสอบถามผู้รู้ด้านวัฒนธรรมประเพณีล้านนาได้รับการยืนยันว่า การติดตั้งโคมยี่เป็งในลักษณะดังกล่าวนั้น เป็นการติดตั้งผิดรูปแบบ โดยเหตุผลอาจจะเนื่องมาจากผู้ออกแบบและติดตั้งไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญหรือเข้าใจวัฒนธรรมประเพณีล้านนาอย่างแท้จริง แต่ในเวลานี้ยังสามารถทำการปรับปรุงแก้ไขได้
ทั้งนี้ นายวัลลภ นามวงค์พรหม กรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เชียงใหม่ถือว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องทางด้านวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยเฉพาะประเพณียี่เป็งล้านนาหรือลอยกระทงนั้น เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก การที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ติดตั้งโคมยี่เป็งกลับหัวกลับหางในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างยิ่ง ซึ่งนับว่ายังโชคดีที่มีผู้พบเห็นและทวงติงก่อนที่จะถึงช่วงการจัดงาน เพราะยังสามารถปรับปรุงแก้ไขได้ และควรรีบเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากกรณีที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็ง ประจำปี 2568 ในครั้งนี้ ล่าสุดทางสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ (ส.ท.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดพรรคประชาชน ได้มีการเคลื่อนไหวผ่านทางโซเชียลมีเดีย ตั้งข้อสังเกตความมีพิรุธเกี่ยวกับการใช้งบประมาณของเทศบาลนครเชียงใหม่ ในการจัดงานครั้งนี้ที่มีใช้เงินงบประมาณรวมทั้งสิ้นกว่า 27 ล้านบาท โดยพบว่าเป็นการเลือกใช้ผู้ประกอบการเอกชนรายเดิมที่เคยรับงานมาตลอดให้มารับออแกไนซ์จัดงานในครั้งนี้ โดยไม่เปิดให้มีการประมูลแข่งขัน ซึ่งทาง ส.ท. และ ส.ส.สังกัดพรรคประชาชนเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณต่างๆ ของเทศบาลนครเชียงใหม่ ทั้งการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็งหรืองานกิจกรรมอื่นๆ เนื่องจากเป็นงบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชน


