ลำปาง - สาวเมี่ยนลำปางหลั่งน้ำตาด้วยความซาบซึ้ง สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ทรงส่งเสริมงานปักผ้าชนเผ่า จนต่อยอดสร้างอาชีพอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ล่าสุดพัฒนาผลงานส่งประกวดรอชิงชนะเลิศระดับประเทศพรุ่งนี้ (30 ต.ค.)
ร.ท.อุกฤติ แสนดี หัวหน้าชุดปฏิบัติการพื้นที่รอยต่อฯ ศูนย์ศิลปาชีพบ้านทุ่งจี้ ต.ทุ่งกว๋าว อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ก่อตั้งศูนย์จนถึงปัจจุบันได้เปิดสอนให้ประชาชนในพื้นที่รอยต่อ 3 อำเภอคือ อำเภอเมือง อำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่ม ให้ประชาชนได้เข้ามาเรียนรู้ใน 6 กลุ่มงาน ได้แก่ เครื่องปั้นดินเผา จักสาน แกะสลัก ปักผ้า ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และ ปักผ้าชาวเขา
โดยในส่วนของศูนย์สาธิตฯ จะมีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและการสาธิตการทอผ้า ซึ่งสามารถต่อยอดอาชีพให้ชาวบ้านในพื้นที่รอยต่อ 3 อำเภอที่เข้ามาเรียนรู้ แล้วกลับไปทำในหมู่บ้านของตนเองและนำผ้าเหล่านั้นมาส่งให้กับศูนย์ฯ เพื่อนำส่งขายสร้างรายได้เพิ่มให้กับครอบครัว
และที่ผ่านมาทางศูนย์ฯ รวมทั้ง มทบ.32 ได้ลงพื้นที่หมู่บ้านบนดอยสูงเพื่อติดตามดูความคืบหน้าของวิวัฒนาการ การต่อยอดการทอผ้า-ปักผ้า พบว่าฝีมือของชาวบ้านดีขึ้นตามลำดับ เห็นได้จากล่าสุดตัวแทนกลุ่มชาวเขาเผ่าเมี่ยนได้ส่งผ้าปักมือเข้าประกวดในโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ปี 2568 ขณะนี้ผลงาน 1 ชิ้นผ่านระดับรองชนะเลิศ อีกหนึ่งชิ้นอยู่ระหว่างชิงชนะเลิศระดับประเทศ
นางสาวศศิวิมล รัตนวิจิตรสกุล สมาชิกในโครงการพระราชดำริบ้านทุ่งจี้ กลุ่มศิลปาชีพชนเผ่าเมี่ยนบ้านวังใหม่ ได้เปิดเผยว่า จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปซักซ้อมถวายรายงานเรื่องผ้าปักมือของชนเผ่า ซึ่งรอผลการตัดสินรางวัลชนะเลิศในวันที่ 30 ต.ค.นี้ด้วย
ทั้งนี้ นางสาวศศิวิมลได้เล่าว่า ชนเผ่าของตนปักผ้าสวมใส่เองมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ซึ่งจะมีเอกลักษณ์ลวดลายเป็นของตัวเองแต่ที่ผ่านมาการปักผ้าจะมีสีสันที่ฉูดฉาด เนื่องจากอยู่บนพื้นที่อากาศหนาวต้องใช้สีที่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จฯ ทรงเยี่ยมชาวบ้านในทุกพื้นที่ พ่อแม่พี่น้องที่มีผ้าปักไว้ก็จะนำมาทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระองค์ท่าน
และทุกครั้งพระองค์ก็จะทรงรับซื้อทุกครั้ง จนกระทั่งให้หน่วยงานตั้งศูนย์ฯ และให้รวบรวมผ้าที่ชาวบ้านปักมาส่งขาย เพื่อให้ขาวบ้านมีรายได้ ซึ่งแม้จะไม่มากนักเนื่องจากส่วนใหญ่จะมีอาชีพหลักอยู่แล้วใช้เวลาว่างในการปักผ้าเพื่อจำหน่ายเป็นรายได้เสริม แต่หลังจากที่ได้เข้ามาเรียนรู้จึงได้ทราบว่าต้องมีการปรับเฉดสีผ้าตามที่คนทั่วไปนิยมสวมใส่ จึงได้ลองนำไปปรับใช้และปรับโทนสี
กระทั่งทางศูนย์ฯ มีออเดอร์ให้ทำ และ ล่าสุดทางศูนย์ฯ เห็นผลงานที่ทำออกมา จึงเสนอให้เข้าประกวดโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ซึ่งเป็นการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” และงานหัตถกรรม ประจำปี 2568 ที่กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เชิญชวนช่างทอผ้า ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และศิลปินหัตถกรรมทั่วไทย ร่วมสืบสานและต่อยอดงานผ้าไทยและงานหัตถกรรม ตามแนวพระดำริฯ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตถกรรมให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สร้างรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน ส่งเสริมให้ผ้าไทยเป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัย และทุกโอกาส ด้วยการฟื้นคืนภูมิปัญญาพื้นถิ่น บูรณาการกับองค์ความรู้และเทคโนโลยีร่วมสมัย
ทางกลุ่มได้ส่งผ้าปักมือเข้าประกวด 2 ผืน ผืนแรกขนาดหน้าแคบ ผ่านรอบรองชนะเลิศแล้ว ส่วนอีกหนึ่งผืน เป็นผ้าหน้ากว้างขนาด 1 x 2 เมตร ผ้าของตนเองเป็น 1 ใน 4 ผลงาน ที่รอการตัดสินรางวัลชนะเลิศในประเภทผ้าปักมือ ในวันที่ 30 ต.ค.นี้ ซึ่งรู้สึกดีใจมากเพราะเป็นการส่งเข้าประกวดครั้งแรก
นางสาวศศิวิมลกล่าวอีกว่า ในฐานะประชาชนคนไทยและชาวบ้านซึ่งเป็นชนเผ่ารู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นอย่างมากเนื่องจากพระองค์ทรงเมตตาชาวบ้านทุกคน พระองค์ทรงเห็นใจชาวบ้านอย่างเรา ทรงช่วยเหลือมาตลอด ไม่ว่าชนชาติไหนพระองค์ท่านก็ทรงรักเหมือนลูกเหมือนหลาน..พระองค์ท่านจะอยู่ในใจตลอดไป


